แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้เสียหายอายุ 15 ปี ได้เสียกับจำเลย แล้วมีจดหมายชวนจำเลยไปอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ วันเกิดเหตุผู้เสียหายมาหาจำเลยแล้วผู้เสียหายกับจำเลยพากันไปอยู่กรุงเทพฯดังนี้ เป็นเรื่องผู้เสียหายสมัครใจไปจากบิดามารดาเองจำเลยไม่ได้พรากผู้เสียหายไปเสียจากบิดามารดา ไม่เป็นความผิดฐานพรากผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพรากผู้เยาว์อายุ 15 ปี ไปเพื่อการอนาจารและหากำไรโดยผู้เสียหายเต็มใจไปด้วย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องลงโทษจำคุก 2 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้วข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยเป็นนักเรียนไปพักอยู่ที่บ้านบิดาผู้เสียหาย แล้วได้เสียกับผู้เสียหาย ก่อนเกิดเหตุคดีนี้จำเลยกลับไปอยู่บ้านผู้เสียหายเขียนจดหมายถึงจำเลยว่าตั้งท้องได้ 5 เดือน และชวนจำเลยไปอยู่กรุงเทพฯ ด้วยกัน และนัดจะมารับจำเลย วันเกิดเหตุคดีนี้ผู้เสียหายได้จัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าและถอนเงิน 2,140 บาท แล้วไปหาจำเลยพาจำเลยไปอยู่ด้วยกันที่บ้านเช่าในกรุงเทพฯ เป็นเวลา 15 วัน จนหมดเงินจึงพากันกลับเพื่อจะขอเงินจากน้องของผู้เสียหาย เผอิญมารดาผู้เสียหายพบเข้ามารดาผู้เสียหายจึงพาคนทั้งสองมาที่บ้านแล้วให้ตำรวจจับจำเลย ดังนี้ เป็นเรื่องที่ผู้เสียหายชวนจำเลยไปอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ ผู้เสียหายสมัครใจไปจากบิดามารดาเองจำเลยไม่ได้พรากผู้เสียหายไปเสียจากบิดามารดา ไม่เป็นความผิดฐานพรากผู้เยาว์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว
พิพากษายืน