คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1753/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ซึ่งหย่าขาดจากจำเลยฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดูบุตรค่าเล่าเรียน ตลอดจนอุปกรณ์การเรียนและค่ารักษาพยาบาลบุตรตามสัญญาที่ทำกันไว้ ไม่ใช่คดีเกี่ยวกับสิทธิในครอบครัว
เมื่อโจทก์และจำเลยทำสัญญากันว่าจำเลยยอมยกให้โจทก์เป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูบุตรและยอมส่งค่าเลี้ยงดูบุตรจนกว่าบุตรจะบรรลุนิติภาวะ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องให้จำเลยจ่ายเงินดังกล่าวให้โจทก์ตามสัญญาได้ และคดีไม่อยู่ในอำนาจของศาลคดีเด็ก
การนับอายุความฟ้องร้องเรียกเงินค่าเลี้ยงดูบุตรที่จำเลยต้องจ่ายแก่โจทก์เป็นรายเดือน และเงินค่าเล่าเรียนและค่าอุปกรณ์การเรียนเป็นรายปีนั้น ย่อมต้องแยกนับดูว่ารายใดเกิน 10 ปีหรือไม่ ส่วนที่ยังไม่เกิน 10 ปีก็ไม่ขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์จำเลยได้ทำสัญญาขณะหย่ากันว่า จำเลยจะเป็นผู้ออกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ และจะชำระค่าเล่าเรียนและอุปกรณ์การเรียนของบุตรจนกว่าบุตรจะเรียนจบการศึกษาชั้นสูงแก่โจทก์ ต่อมาจำเลยผิดสัญญา จึงขอให้จำเลยชำระเงินที่ค้างและเงินที่จำเลยจะต้องจ่ายต่อไปตามสัญญา

จำเลยให้การว่าจำเลยมีรายได้น้อยไม่สามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวให้ได้ดีตามควรอยู่แล้ว จึงไม่ต้องให้ค่าอุปการะเลี้ยงดูตามโจทก์ฟ้อง และสัญญาตามฟ้องเป็นเรื่องที่จำเลยมีความสัมพันธ์กับบุตร ไม่ใช่กับโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง และคดีโจทก์ ขาดอายุความ

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์มีอำนาจฟ้อง คดีไม่ขาดอายุความ พิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรที่ค้าง และให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูเป็นรายเดือนจนกว่าบุตรจะบรรลุนิติภาวะ และจ่ายค่าเล่าเรียนและอุปกรณ์การเรียนเป็นรายปีจนกว่าบุตรจะจบการศึกษาชั้นสูงแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกาทั้งปัญหาข้อเท็จจริงและปัญหาข้อกฎหมาย

ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ซึ่งหย่าขาดจากจำเลยฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดูบุตรค่าเล่าเรียนตลอดจนอุปกรณ์การเรียนและค่ารักษาพยาบาลบุตรตามสัญญายอมที่ทำไว้ไม่ใช่คดีเกี่ยวกับสิทธิในครอบครัว เมื่อทุนทรัพย์ไม่เกิน 50,000บาท จึงต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง

เมื่อโจทก์และจำเลยตกลงกันตามสัญญาว่าจำเลยยอมยกให้โจทก์เป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูบุตรและยอมส่งค่าเลี้ยงดูบุตรจนกว่าบุตรจะบรรลุนิติภาวะโจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องให้จำเลยจ่ายค่าดังกล่าวให้โจทก์ตามสัญญาได้ และคดีไม่อยู่ในอำนาจของศาลคดีเด็กและเยาวชนกลาง แต่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลแพ่ง

การนับอายุความฟ้องร้องเรียกเงินค่าเลี้ยงดูบุตรที่จำเลยต้องจ่ายแก่โจทก์เป็นรายเดือน และเงินค่าเล่าเรียนและค่าอุปกรณ์การเรียนเป็นรายปีนั้นย่อมต้องนับดูว่ารายใดเกิน 10 ปีหรือไม่ ส่วนที่ยังไม่เกิน 10 ปี ก็ไม่ขาดอายุความ

เมื่อจำเลยตกลงให้โจทก์เป็นผู้เลี้ยงดูบุตรโดยจำเลยยอมจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตรและค่าเล่าเรียนตลอดจนอุปกรณ์การเรียนกับค่ารักษาพยาบาลบุตรให้โจทก์ตามสัญญาแล้ว จำเลยจะนำเหตุที่ว่าตนมีภาระต้องเลี้ยงดูบุตรภริยา (คนใหม่)และมีหนี้สินมาอ้างเพื่อปัดความรับผิดตามสัญญาหาได้ไม่

พิพากษายืน

Share