แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลแขวงพิพากษายกฟ้อง โจทก์โดยฟังว่าจำเลยไม่มีเจตนากระทำความผิดฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ เมื่อโจทก์อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 มาตรา 22
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและร้องเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ ๒๘ พ.ค.๒๕๐๐ เวลากลางวันจำเลยกับพวกสมคบกันบุกรุกเข้าไปในเขตที่โจทก์เช่าธรณีสงฆ์ แล้วพังอ่างปูนซิเมนต์ งัดรั้วสังกะสี และทำลายต้นไม้เสียหาย ๑,๕๐๐ บาท ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๘,๓๕๙,๓๖๐,๓๖๒,๓๖๓ และ ๓๖+
ศาลแขวงนครราชสีมาไต่สวนแล้ว สั่งประทับฟ้องเฉพาะข้อหาฐานทำให้เสียทรัพย์และบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๘,๓๖๒
จำเลยปฏิเสธศาลแขวงนครราชสีมาพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลแขวงนครราชสีมามีคำสั่งว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตาม พ.ร.บ.จัดตั้ง ศาลแขวงและวิธีการพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. ๒๔๙๙ มาตรา ๒๒ จึงไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ยกอุทธรณ์คำสั่งของโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าการที่ศาลแขวงนครราชสีมาพิพากษายกฟ้องโจทก์ก็โดยฟังว่า จำเลยไม่มีเจตนาจะกระทำความผิดฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัยพ์ คำฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์คัดค้าว่า จำเลยกระทำโดยเจตนาทุจริตควรได้รับโทษ ไม่ได้โต้เถียงว่า แม้ขาดเจตนาก็ต้องมีความผิดด้วย เป็นอุทธรณ์คัดค้านในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาคดีความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. ๒๔๙๙ มาตรา ๒๒ จึงให้ยกฎีกาโจทก์