คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1744/2535

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานสงเคราะห์ตำแหน่งพนักงานสงเคราะห์ยางจังหวัดสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจังหวัดตรัง ตามพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง พ.ศ. 2503 ได้ยักยอกปุ๋ยของกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง ซึ่งอยู่ในอำนาจจัดการดูแลรักษาของจำเลยตามหน้าที่ไปเป็นประโยชน์ของจำเลย ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐพ.ศ. 2502 มาตรา 4 แต่ตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวให้บทวิเคราะห์ศัพท์คำว่า “พนักงาน” ไว้หมายถึง บุคคลต่าง ๆตามที่ระบุไว้ ทั้งนี้นอกจากผู้เป็นเจ้าพนักงานอยู่แล้วตามกฎหมายเมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานสงเคราะห์ตามพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง พ.ศ. 2503 จำเลยย่อมเป็นเจ้าพนักงานอยู่แล้วตามกฎหมายจึงไม่เป็นพนักงานตามความหมายของพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐพ.ศ. 2502 ลงโทษจำเลยตามฟ้องไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง พ.ศ. 2503 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรออกประกาศกระทรวงเกษตร เรื่อง แต่งตั้งเจ้าพนักงานสงเคราะห์ตามพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง พ.ศ. 2503ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2512 ข้อ 2.15 พนักงานสงเคราะห์ยางจังหวัดสำนักงานกองทุนการทำสวนยาง เป็นเจ้าพนักงานสงเคราะห์ตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง พ.ศ. 2503จำเลยเป็นเจ้าพนักงานสงเคราะห์ ตำแหน่งพนักงานสงเคราะห์ยางจังหวัดสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจังหวัดตรัง มีหน้าที่จัดการและรักษาวัสดุและอุปกรณ์ของกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางซึ่งเป็นนิติบุคคลที่จุดเก็บและสะสมวัสดุแปลงผลิตกิ่งตายางบ้านห้วยต้อ ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง จำเลยได้เบียดบังปุ๋ย 53 กระสอบ หนัก 2,650 กิโลกรัม ราคา 15,237.50 บาทของกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางซึ่งอยู่ในอำนาจจัดการ ดูแลรักษาของจำเลยตามหน้าที่ไปเป็นประโยชน์ของจำเลยโดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4 พระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางพ.ศ. 2503 มาตรา 3, 4, 28 ประกาศกระทรวงเกษตร เรื่องแต่งตั้งเจ้าพนักงานสงเคราะห์ตามพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง พ.ศ. 2503 ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2512 ข้อ 2.15พระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2505มาตรา 3 พระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2518 มาตรา 4
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502มาตรา 4 จำคุก 5 ปี จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยในชั้นนี้ตามฎีกาข้อแรกของโจทก์ว่า ศาลจะพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา 4แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 ตามฟ้องของโจทก์ได้หรือไม่ เห็นว่า คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องไว้ชัดเจนว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานสงเคราะห์ตำแหน่งพนักงานสงเคราะห์ยางจังหวัด สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจังหวัดตรัง ตามพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง พ.ศ. 2503 ได้ยักยอกปุ๋ยของกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางซึ่งอยู่ในอำนาจจัดการดูแลรักษาของจำเลยตามหน้าที่ไปเป็นประโยชน์ของจำเลย ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4 เพียงอย่างเดียว แต่ตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวให้บทวิเคราะห์ศัพท์คำว่า “พนักงาน” ไว้หมายถึง บุคคลต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ทั้งนี้นอกจากผู้เป็นเจ้าพนักงานอยู่แล้วตามกฎหมาย เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานสงเคราะห์ตามพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง พ.ศ. 2503 จำเลยย่อมเป็นเจ้าพนักงานอยู่แล้วตามกฎหมาย จึงไม่เป็นพนักงานตามความหมายของพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐพ.ศ. 2502 ดังนั้นจึงไม่อาจลงโทษจำเลยตามฟ้องของโจทก์ได้ เทียบคำพิพากษาฎีกาที่ 619/2506 ระหว่างพนักงานอัยการ กรมอัยการ โจทก์นายสมิต เนาว์อยู่คุ้ม จำเลย ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว”
พิพากษายืน

Share