คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 17438/2555

แหล่งที่มา :

ย่อสั้น

ในเรื่องวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนศาลชั้นต้นพิพากษา เมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้วจึงหมดความจำเป็นที่ศาลฎีกาจะต้องพิจารณาเกี่ยวกับคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวของโจทก์ต่อไป

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาว่า สัญญาขายฝากระหว่างโจทก์และจำเลยที่ 3 ตกเป็นโมฆะ ให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ชำระเงินกู้ 1,800,000 บาท แก่จำเลยที่ 3 พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ ให้จำเลยที่ 3 คืนต้นฉบับโฉนดที่ดิน 2 ฉบับตามฟ้องแก่โจทก์ และห้ามยุ่งเกี่ยวกับที่ดินพร้อมอาคารพาณิชย์ 2 คูหา
โจทก์ยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาขอให้มีคำสั่งห้ามชั่วคราวมิให้จำเลยที่ 3 โอนขาย ยักย้าย หรือจำหน่ายที่ดินพิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้าง จนกว่าคดีจะถึงที่สุด
จำเลยที่ 3 ยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์ ให้คืนค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์ทั้งหมดแก่โจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาในชั้นนี้เป็นเรื่องวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนศาลชั้นต้นพิพากษา แต่ปรากฏจากถ้อยคำสำนวนที่ศาลชั้นต้นส่งมายังศาลฎีกาว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว ฉะนั้นจึงหมดความจำเป็นที่จะต้องพิจารณาเกี่ยวกับคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวของโจทก์ต่อไป ไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาตามฎีกาของโจทก์
ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลฎีกา คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาทั้งหมดแก่โจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกานอกจากนี้ให้เป็นพับ

Share