แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ปืนของกลางแม้มีสภาพเก่า ลำกล้องมีสนิมขึ้นไม่สามารถใช้ยิงได้ และบางกระบอกไม่มีด้ามปืนก็ตาม ก็ถือเป็น “อาวุธปืน”ตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 4(1)ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2501 มาตรา 3 ดังนั้น การที่จำเลยมีอาวุธปืนของกลางไว้ในความครอบครอง จึงมีความผิดฐานมีอาวุธปืนไม่มีทะเบียนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนลูกซองสั้นชนิดประกอบขึ้นเองจำนวน 3 กระบอก และมีอาวุธปืนสั้นขนาด .22 จำนวน 1 กระบอกไม่มีเครื่องหมายทะเบียนของเจ้าพนักงานประทับไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 44 พ.ศ. 2519 ข้อ 6 ริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 72 วรรคแรก คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 44 ข้อ 6 จำคุก 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้จำเลยหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี 4 เดือน และให้ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ อาวุธปืนของกลางไม่ริบ ให้คืนเจ้าของ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองปืนของกลางซึ่งไม่มีเครื่องหมายทะเบียนของเจ้าพนักงานประทับไว้จำนวน 4 กระบอก ปืนของกลางดังกล่าวขึ้นสนิมไม่สามารถใช้ยิงได้ ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์มีว่าปืนของกลางที่จำเลยครอบครองอยู่เป็นอาวุธปืนตามกฎหมายหรือไม่ ในปัญหาข้อนี้ พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 4(1) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2501 มาตรา 3บัญญัติว่า “อาวุธปืน หมายความรวมตลอดถึง อาวุธทุกชนิดซึ่งใช้ส่งเครื่องกระสุนปืนโดยวิธีระเบิดหรือกำลังดันของแก๊สหรืออัดลมหรือเครื่องกลไกอย่างใด ซึ่งต้องอาศัยอำนาจของพลังงาน และส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธนั้น ๆ ซึ่งรัฐมนตรีเห็นว่าสำคัญและได้ระบุไว้ในกฎกระทรวง” เห็นว่า ตามตัวบทดังกล่าวมิได้บัญญัติว่า อาวุธปืนจะต้องใช้ยิงได้จึงจะเป็นอาวุธปืน และแม้ส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธปืนที่รัฐมนตรีเห็นว่าสำคัญและได้ระบุไว้ในกฎกระทรวงก็ถือว่าเป็นอาวุธปืนด้วย ดังนั้น การที่จำเลยมีปืนของกลางไว้ในครอบครองแม้จะปรากฏว่าปืนของกลางมีสภาพเก่า ลำกล้องมีสนิมขึ้น ไม่สามารถใช้ยิงได้และบางกระบอกไม่มีด้ามปืนตามที่ปรากฏในภาพถ่ายหมาย จ.4และ จ.5 จำเลยก็มีความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองตามฟ้องตามความหมายของบทบัญญัติดังกล่าวแล้วที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายกฟ้องโจทก์มานั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น