แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้สรรพากรจังหวัดสั่งให้เสมียนสรรพากรจดบัญชีและหนังสือราชการเท็จ เมื่อเสมียนสรรพากรทราบดีอยู่แล้วว่าข้อความที่ให้จดเป็นเท็จและเป็นคำสั่งที่ผิดกฎหมาย เมื่อเสมียนผู้นั้นทำลงไปตามคำสั่งแล้ว เสมียนผู้นั้นจะยกขึ้นมาเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิดหาได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นเสมียนสรรพากรปฏิบัติราชการที่แผนกสรรพากรจังหวัดตาก ได้เจตนายักยอกเงินสลากกินแบ่งรัฐบาลรวม14,148 บาท และจำเลยได้บังอาจจดและทำบัญชีแสดงการจำหน่ายและรับเงินค่าสลากกินแบ่ง และบัญชีรายวันรับจ่ายเงินสลากกินแบ่งโดยความเท็จ กับจดเลขธนาณัติลงในหนังสือราชการที่คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131, 230 และ 319
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 230 ให้วางโทษจำเลยโดยจำคุก 5 ปี ลดตามมาตรา 59 กึ่งหนึ่งคงจำคุก 2 ปี 6 เดือน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยรับกันว่า ได้จดข้อความเท็จลงในบัญชีจำหน่ายและรับเงินค่าสลากกินแบ่งและในหนังสือราชการ แต่อ้างว่าทำตามที่นายเพียรสรรพากรจังหวัดสั่ง จำเลยก็ทราบดีอยู่แล้วการเอาเลขธนาณัติของเดิมมาใส่ในบัญชีและหนังสือราชการอีกนั้นก็เพื่อลวงให้เห็นว่าส่งเงินแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ว่าแม้จำเลยจะอ้างว่าทำตามคำสั่งสรรพากรจังหวัด จำเลยก็ทราบอยู่ดีแล้วว่า เป็นคำสั่งที่ผิดกฎหมาย จำเลยจะยกขึ้นมาแก้ตัวให้พ้นผิดไม่ได้
จึงพิพากษายืน