แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีทั้งสามสำนวนนี้เกิดเหตุในคืนเดียวกัน โดยจำเลย ทั้งสามกับพวกร่วมกันปล้นทรัพย์ทั้งสามคดีติดต่อกันและจำเลยทั้งสามก็ถูกจับในวันเดียวกันทั้งสามสำนวนคดีทั้งสามสำนวนจึงเกี่ยวพันกันพอที่จะฟ้องรวมกันหรือพิจารณาพิพากษารวมกันได้ แม้โจทก์จะแยกฟ้องจำเลยที่ 2และที่ 3 เป็นสามสำนวนก็ตาม แต่เมื่อการกระทำของจำเลยที่ 2และที่ 3 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน และศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 และที่ 3 ทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปเช่นนี้โทษจำคุกที่ลงทุกกระทงเมื่อรวมทั้งสิ้นแล้วต้องไม่เกินกำหนดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากจำเลยที่ 2 และที่ 3 ถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2629/2533 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2630/2533 และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2439/2534ของศาลชั้นต้น โดยให้นับโทษทั้งสามสำนวนติดต่อกัน
จำเลยที่ 2 และที่ 3 ยื่นคำร้องว่า การที่ศาลให้นับโทษจำคุกของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ทั้งสามสำนวนติดต่อกันนั้น เมื่อรวมโทษจำคุกของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ในแต่ละคดีแล้วจะเกิน 50 ปีทำให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 ต้องรับโทษจำคุกสูงกว่าโทษจำคุกที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(3) ห้ามไว้ ขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งออกหมายจำคุกให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 ใหม่ โดยไม่ให้นับโทษต่อกันเกิน 50 ปี
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ 2 และที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 และที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยที่ 2และที่ 3 ถูกศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2629/2533 จำคุกคนละ 26 ปี และ 24 ปี ตามลำดับ คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2630/2533 จำคุกคนละ 24 ปีและคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2439/2534 จำคุกคนละ 24 ปี โดยให้นับโทษติดต่อกัน รวมจำคุกจำเลยที่ 2 เป็นเวลา 74 ปี จำคุกจำเลยที่ 3 เป็นเวลา 72 ปี และคดีถึงที่สุด
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยในชั้นนี้มีว่า การลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2และที่ 3 ทั้งสามสำนวนติดต่อกันเกินกว่า 50 ปี ชอบหรือไม่เห็นว่า ปรากฏตามสำนวนว่า คดีทั้งสามสำนวนนี้เกิดเหตุในคืนเดียวกัน โดยจำเลยทั้งสามร่วมกันปล้นทรัพย์ทั้งสามคดีติดต่อกันและจำเลยทั้งสามก็ถูกจับในวันเดียวกันทั้งสามสำนวนคดีทั้งสามสำนวนจึงเกี่ยวพันกันพอที่จะฟ้องรวมกันหรือพิจารณาพิพากษารวมกันได้ ฉะนั้น แม้โจทก์จะแยกฟ้องจำเลยที่ 2 และที่ 3เป็นสามสำนวนก็ตาม เมื่อการกระทำของจำเลยที่ 2 และที่ 3เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันและศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 และที่ 3 ทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปเช่นนี้ โทษจำคุกที่ลงทุกกระทงเมื่อรวมทั้งสิ้นแล้วต้องไม่เกินกำหนด 50 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(3) ที่ศาลล่างทั้งสองไม่แก้หมายจำคุกที่ให้นับโทษจำคุกจำเลยที่ 2 และที่ 3 ติดต่อกันทั้งสามสำนวนเกิน 50 ปี จึงไม่ชอบ
พิพากษากลับ ให้แก้หมายจำคุกโดยให้นับโทษจำคุกจำเลยที่ 2และที่ 3 ติดต่อกันทั้งสามสำนวน แต่รวมแล้วไม่ให้เกิน 50 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(3)