แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยกับพวกวิวาทกับบุคคลอีกกลุ่มหนึ่ง จำเลยจึงใช้ระเบิดขวดขนาดเท่ากล่องไม้ขีดไฟโยนไปยังกลุ่มคนที่วิวาทกับจำเลย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้รับบาดเจ็บเพราะถูกสะเก็ดระเบิด เช่นนี้เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าระเบิดขวดนั้นมีกำลังอ่อน ไม่สามารถทำให้บุคคลถึงแก่ความตายได้โดยแน่แท้ แต่จำเลยเล็งเห็นต่อผลว่าสะเก็ดระเบิดอาจทำให้ผู้อื่นถึงตายได้ จำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 81
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีระเบิดขวดและพกพาระเบิดนั้นไปในทางสาธารณะและได้ใช้ระเบิดขวดขว้างไปในกลุ่มคนโดยเล็งเห็นผลว่าเมื่อเกิดระเบิดสะเก็ดระเบิดอาจถูกคนถึงแก่ความตายได้ และสะเก็ตระเบิดได้ถูกนางพรทิพย์และนางวัฒนาผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กาย ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 38 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 38, 74
จำเลยให้การว่า จำเลยขว้างระเบิดจริงเพื่อป้องกันตัว ไม่มีเจตนาฆ่าผู้ใดและเป็นระเบิดขนาดเล็กไม่เป็นอันตรายแก่ชีวิต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 38, 74 กระทงหนึ่ง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 กระทงหนึ่งและมาตรา 295 อีกกระทงหนึ่ง ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ ซึ่งเป็นกระทงหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 วางโทษจำคุก 3 ปี จำเลยอายุ 19 ปี ลดมาตราส่วนโทษให้ 1 ใน 3จำคุก 2 ปี คำให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้ 1 ใน 3ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี 4 เดือน ให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 3 ปี
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 38, 74 กระทงหนึ่ง ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบมาตรา 80, 81 กระทงหนึ่ง และมาตรา 371 อีกกระทงหนึ่ง แต่ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 81 ซึ่งเป็นกระทงหนัก จำเลยมีอายุ 19 ปี ลดมาตราส่วนโทษให้1 ใน 3 จำคุก 2 ปี คำให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้อีก1 ใน 3 คงจำคุก 1 ปี 4 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ
จำเลยฎีกาว่าไม่มีเจตนาฆ่า และขอให้รอการลงโทษ
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้จำเลยจะต่อสู้ว่าระเบิดขวดที่จำเลยใช้ขว้างไปยังกลุ่มพวกที่วิวาทกับจำเลยจะบรรจุอยู่ในขวดแบน ๆ ขนาดเท่ากล่องไม้ขีดไฟ แต่จำเลยย่อมรู้หรือควรรู้ได้ว่าถ้าระเบิดขวดที่จำเลยขว้างไปนั้นระเบิดสะเก็ดระเบิดไปถูกผู้ใด อาจทำให้ผู้นั้นได้รับอันตรายถึงตายได้ จำเลยย่อมเล็งเห็นผลที่จะพึงบังเกิดขึ้น จึงต้องถือว่าจำเลยกระทำโดยเจตนาฆ่า แต่เมื่อระเบิดดังกล่าวไม่อาจทำให้ผู้ถูกสะเก็ดระเบิดถึงแก่ความตายได้ เพราะมีกำลังอ่อนกรณีต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 81โดยถือว่าจำเลยมุ่งต่อผลซึ่งกฎหมายบัญญัติเป็นความผิด แต่ไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้เพราะปัจจัยซึ่งใช้ในการกระทำผิด
พิพากษายืน