คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1710/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าหนี้เป็นชาวแคนาดา มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศแคนาดาแต่เข้ามาในประเทศไทย ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ ช.ทนายความยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีนี้ ต่อมาเมื่อเจ้าหนี้กลับไปที่ประเทศแคนาดา เจ้าหนี้ยังได้ส่งหนังสือมอบอำนาจโดยมีโนตารีปับลิกลงชื่อประทับตรารับรองมอบต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ประกอบคำขอรับชำระหนี้อีก ดังนี้ เมื่อการมอบอำนาจของเจ้าหนี้ตามหนังสือมอบอำนาจฉบับเดิมเป็นการชอบแล้ว แม้ต่อมาเจ้าหนี้จะยื่นหนังสือมอบอำนาจมีโนตารีปับลิกลงชื่อประทับตรารับรองให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ จะเกินกำหนดเวลาสองเดือนนับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดก็ตาม ก็หาทำให้การมอบอำนาจซึ่งชอบแล้วกลายเป็นการไม่ชอบหรือเป็นการขยายกำหนดเวลาขอรับชำระหนี้ไม่

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ของจำเลย (ลูกหนี้) เด็ดขาด และต่อมาได้มีคำพิพากษาให้ลูกหนี้เป็นบุคคลล้มละลาย เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้รวม 8 รายการ เป็นเงิน 669,243.75 บาท จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้อ้างว่าเป็นหนี้กู้ยืม เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดให้บรรดาเจ้าหนี้ลูกหนี้ตรวจคำขอรับชำระหนี้แล้วลูกหนี้โต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้สอบสวน แล้วทำความเห็นเสนอต่อศาลชั้นต้นว่าเห็นควรให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้เต็มจำนวนตามคำขอจากกองทรัพย์สินของลูกหนี้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ลูกหนี้อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้เจ้าหนี้มีสิทธิได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้เป็นเงิน 605,418.75 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำสั่งของศาลชั้นต้น (ที่ถูกคำขอนอกจากนี้ให้ยก)
ลูกหนี้ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของลูกหนี้ว่าหนังสือมอบอำนาจฉบับเดิมท้ายคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ไม่ชอบและหนังสือมอบอำนาจฉบับใหม่ของเจ้าหนี้เป็นการขยายเวลาขอรับชำระหนี้หรือไม่ เห็นว่า ตามหนังสือมอบอำนาจฉบับเดิมลงวันที่22 มิถุนายน 2530 ท้ายคำขอรับชำระหนี้เอกสารหมาย จ.1 ของเจ้าหนี้ระบุชัดว่าเจ้าหนี้มอบอำนาจให้นายชยธวัช อติแพทย์ เป็นผู้มีอำนาจเจรจาหนี้ติดต่อทวงถามหนี้ และให้ผู้รับมอบอำนาจมีอำนาจขอรับเงินคืนจากศาลหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ด้วย นายชยธวัชผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าหนี้เบิกความยืนยันว่าขณะเจ้าหนี้มอบอำนาจตามเอกสารหมาย จ.1 เจ้าหนี้มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทยศาลฎีกาเห็นว่า หนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.1 ของเจ้าหนี้ดังกล่าวถือได้ว่าเจ้าหนี้มอบอำนาจให้นายชยธวัชยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีนี้ได้ด้วย เป็นการมอบอำนาจที่ชอบแล้ว และข้อเท็จจริงได้ความว่าเมื่อเจ้าหนี้กลับไปที่ประเทศแคนาดาซึ่งเป็นการอยู่นอกราชอาณาจักรแล้ว เจ้าหนี้ยังได้ส่งหนังสือมอบอำนาจโดยมีโนตารีปับลิกลงชื่อประทับตรารับรองมอบต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ประกอบคำขอรับชำระหนี้อีกด้วย เมื่อการมอบอำนาจของเจ้าหนี้ตามเอกสารหมายจ.1 เป็นการชอบแล้ว แม้ต่อมาเจ้าหนี้จะยื่นใบมอบอำนาจมีโนตารีปับลิกลงชื่อประทับตรารับรองให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะเกินกำหนดเวลาสองเดือนนับแต่วันที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โฆษณาคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดก็ตาม หาทำให้การมอบอำนาจซึ่งชอบแล้วกลายเป็นการไม่ชอบหรือเป็นการขยายเวลาขอรับชำระหนี้ดังที่ลูกหนี้ฎีกาไม่
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้เป็นเงินทั้งสิ้น526,743.75 บาท คำขอนอกจากนี้ให้ยก

Share