แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ร้องขอเพิ่มเติมฟ้องก่อนจำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดีและก่อนสืบพยานนั้น เมื่อมีเหตุอันสมควรแล้ว ก็ควรอนุญาตให้เพิ่มเติมได้ เพราะข้อที่ว่าจำเลยจะเสียเปรียบหรือหลงข้อต่อสู้คดีไม่อาจเกิดขึ้นได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484มาตรา 11, 73, 74 โดยกล่าวว่าจำเลยได้บังอาจตัดฟันชักลากไม้ตะแบก 2 ต้น คิดเป็นเนื้อไม้ 3.18 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นไม้ประเภทหวงห้ามในป่าโคกหนองชี โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานก่อนวันนัดพิจารณาและก่อนศาลถามคำให้การจำเลย โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องเพื่อให้ชัดเจนว่า ไม้ตะแบกที่จำเลยตัดฟันเป็นไม้หวงห้ามตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม 2485 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการได้ออกประกาศกำหนดขนาดจำกัด และอัตราค่าภาคหลวงในเขตจังหวัดกาฬสินธ์แล้ว และทางราชการได้คัดสำเนาพระราชกฤษฎีกาและประกาศดังกล่าวไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอ และที่ทำการกำนันและที่สาธารณะสถานที่เกี่ยวข้องกับในคดีนี้และจำเลยได้ทราบประกาศนี้แล้วต่อมาได้ยื่นคำร้องแถลงถึงเหตุขออนุญาตเพิ่มเติมฟ้องที่กล่าว
ถึงวันนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมฟ้องและได้สอบถามคำให้การจำเลย จำเลยรับสารภาพตลอดข้อหา ศาลชั้นต้นงดสืบพยาน แล้ววินิจฉัยว่า ฟ้องของโจทก์ไม่ถูกต้องตามกฎหมายลงโทษจำเลยไม่ได้ พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมฟ้องได้ และให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ร้องขอเพิ่มเติมฟ้องก่อนจำเลยได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดี และก่อนสืบพยาน ข้อที่ว่าจำเลยจะเสียเปรียบหรือหลงข้อต่อสู้ คดีจึงไม่อาจเกิดขึ้น ทั้งคดีก็มีเหตุอันสมควรที่จะอนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมฟ้องได้ตามคำร้อง
จึงพิพากษายืน