คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 715/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำฟ้องคดีแพ่งที่หุ้นส่วนผู้หนึ่งได้ใช้หนี้ของห้างหุ้นส่วนแทนไปฟ้องหุ้นส่วนผู้รับโอนกิจการของหุ้นส่วนไปโดยรับรองจะชำระหนี้รายนี้โจทก์ไม่จำเป็นต้องบรรยายว่าโจทก์ได้ชำระเงินกี่ครั้งเมื่อวันใดไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
การที่โจทก์ผู้เป็นหุ้นส่วนรับใช้หนี้ค่าก่อสร้างโรงมหรสพที่โจทก์จำเลยและผู้อื่นซึ่งเป็นหุ้นส่วนกันแทนหุ้นส่วนไป ที่ประชุมให้จำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการเก็บรายได้ผ่อนใช้ให้โจทก์ ภายหลังหุ้นส่วนเลิกกันจำเลยรับโอนกิจการมาทั้งหมดดังนี้ โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระได้
การฟ้องให้ชำระหนี้ที่โจทก์ใช้แทนไปดังกล่าว ไม่ใช่เป็นการกู้ยืมตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 และไม่ใช่เรื่องที่กฎหมายให้แนบหรือแสดงเอกสารมาพร้อมฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยกับบุคคลอื่นหลายคนได้เข้าหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน เพื่อปลูกสร้างโรงมหรสพในที่ดินของจำเลยเพื่อหามหรสพมาแสดงหรือให้เช่า จำเลยเป็นผู้จัดการและรักษาเงินเพื่อจัดการก่อสร้างดำเนินงาน ในการปลูกสร้างจำเลยเป็นหนี้ค่าก่อสร้างแก่ ห. และถูกฟ้อง ห. จัดการบังคับคดี โจทก์ได้เข้าใช้หนี้ให้แทนเป็นเงิน 2,600 บาท โดยความรู้เห็นยินยอมของจำเลยโจทก์จึงเข้ารับช่วงสิทธิเป็นเจ้าหนี้จำเลยในเงินจำนวนนี้ ต่อมาหุ้นส่วนถอนหุ้นหมดโรงมหรสพจึงตกเป็นของจำเลยผู้เดียว จำเลยรับรองจะผ่อนชำระ 2,600 บาทให้โจทก์ทุกวัน โดยเก็บเงินจากค่าผ่านประตูหรือค่าเช่า จำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้เป็นหนี้โจทก์ ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ที่ว่าชำระเงินไป 2,600 บาท ไม่ปรากฏวันเดือนปีไม่แสดงหลักฐานเป็นหนังสือและอื่น ๆ

ศาลแพ่งฟังข้อเท็จจริงตามฟ้อง เห็นว่าการที่โจทก์ชำระหนี้แทนจำเลยไปดังกล่าว โจทก์ได้รับช่วงสิทธิของเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 226 และ 229(3) ไม่จำต้องมีหลักฐานตามมาตรา 653 ฟ้องไม่เคลือบคลุม พิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ 2,600 บาทกับดอกเบี้ย ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า คำฟ้องใดจะต้องมีข้อบรรยายอย่างใด จะต้องมีวันเดือนปีหรือไม่ ทางแพ่งไม่เหมือนกับทางอาญา และไม่ได้บังคับให้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับวันเวลาเหมือนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) ต้องแล้วแต่ลักษณะคำฟ้องและประเด็นที่ตั้งมาเป็นประมาณ คดีนี้โจทก์ ไม่จำเป็นจะต้องบรรยายว่าโจทก์ได้ชำระเงินไปกี่ครั้ง ครั้งไหนเท่าใด เมื่อวันเดือนปีใด เพราะจำเลยอาจไม่โต้เถียงในข้อนี้ ซึ่งจำเลยก็ไม่ได้ต่อสู้มาโดยตรงว่าโจทก์ไม่ได้ชำระหนี้ เป็นแต่ต่อสู้ว่าเงินที่โจทก์ชำระเป็นเงินของจำเลยเอง ที่ว่าฟ้องเคลือบคลุมเพราะไม่แสดงหลักฐานเป็นหนังสือนั้นไม่ใช่เรื่องที่กฎหมายให้แนบหรือแสดงเอกสารเห็นพ้องด้วยศาลล่างว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม ส่วนข้อเท็จจริงฟังว่า โจทก์ได้รับชำระหนี้ให้ ห. ที่ประชุมตกลงให้เก็บรายได้ผ่อนใช้ให้โจทก์ ๆ ได้ใช้หนี้นั้นแล้ว ต่อมาหุ้นส่วนเลิกกัน และจำเลยรับซื้อกิจการไว้จึงมีหน้าที่ต้องใช้เงินที่โจทก์ชำระแก่ ห. คืนแก่โจทก์ กรณีเช่นนี้ไม่ใช่กู้ยืมไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653

พิพากษายืน

Share