แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยผู้เดียวนอนเฝ้ากระบือและเครื่องสูบน้ำที่ห้างนา ในท้องที่ที่มีการปล้นการลักกันเสมอ ตกใจตื่นโดยได้ยินเสียงก๊อกแก๊กทางปลายเท้า เห็นเงาคนดำๆ ห่าง 1 วาเศษเข้าใจว่าเป็นคนร้ายจะมาทำการปล้น จึงใช้ปืนยิงไป1 นัด ถูกผู้นั้นตาย ในขณะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนร้าย ย่อมถือได้ว่าเป็นการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกระทง ก.ฆ่าคนโดยเจตนา ข. มีอาวุธปืนมีทะเบียนของผู้อื่น และมีกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 90,91 พระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 และ (ฉบับที่ 4)พ.ศ. 2510 มาตรา 3
จำเลยให้การรับสารภาพในข้อหาฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ปฏิเสธในข้อหาฐานฆ่าคนโดยเจตนา
ศาลชั้นต้นเห็นว่า การกระทำของจำเลยถือได้ว่าเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ จึงไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490มาตรา 7, 72 และ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 3 จำคุก 6 เดือน และปรับ 1,000 บาท รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งตามมาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน ปรับ 500 บาท โทษจำให้รอไว้ 2 ปี ตามมาตรา 56 ปืนและกระสุนปืนให้คืนเจ้าของ ข้อหานอกนั้นให้ยก
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การที่จำเลยยิงผู้ตายเป็นการกระทำโดยป้องกันที่เกินสมควรแก่เหตุพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 62, 69 ให้จำคุก 2 ปีนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในคืนเกิดเหตุ จำเลยผู้เดียวนอกเฝ้ากระบือและเครื่องสูบน้ำที่ห้างนาซึ่งสูงจากพื้นดินเพียง 2 ศอกเศษ ในท้องที่ที่มีการปล้นการลักกันเสมอ ตกใจตื่นโดยได้ยินเสียงก๊อกแก๊กทางปลายเท้า เห็นเงาคนดำ ๆ ห่าง 1 วาเศษ เข้าใจว่าเป็นคนร้ายจะมาทำการปล้น จึงใช้ปืนยิงไป 1 นัด ถูกผู้นั้นตาย ตามพฤติการณ์ดังกล่าว การที่จำเลยยิงผู้ตายซึ่งเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนร้ายลงไปในขณะนั้น ย่อมถือได้ว่าเป็นการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุ
พิพากษาแก้ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น