คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1708/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีก่อนจำเลยฟ้องโจทก์หาว่าบุกรุก แล้วโจทก์มาฟ้องจำเลยหาว่า กระทำให้เสียทรัพย์ โดยว่าจำเลยสับฟันถอนต้นผลอาสินของโจทก์ในที่แปลงเดียวกันนั้น ดังนี้ถือไม่ได้ว่าเวลาในระหว่างคดีก่อนนั้นเป็นเวลาหยุดอายุความตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 79 ยังต้องนับอายุความตามมาตรา 80 อยู่ ถ้าโจทก์ฟ้องเกิน 3 เดือน คดีก็ขาดอายุความ
ความผิดตามมาตรา 150 นั้นเป็นเรื่องทำลายทรัพย์ในการพิจารณาคดีใดๆ ของศาล และมีผู้แสดงทรัพย์นั้นให้ปรากฏแล้ว ถ้าเป็นการทำลายทรัพย์เสียก่อนไปฟ้องศาลแล้วคดีก็ไม่เป็นผิดตามมาตรา 150
ความผิดตามมาตรา 175,176 เป็นความผิด ซึ่งผู้รับใช้ยังมิได้กระทำ ถ้าผู้รับใช้กระทำความผิดไว้แล้ว ผู้ใช้ก็ไม่ผิดตามมาตรา 175,176 แต่ผิดฐานสมคบในความผิดที่ทำขึ้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยที่ 1 ได้จ้างวานจำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการควบคุมนายเรียงกับพวกคนงานเข้าถางและเผาป่าในบริเวณเคหะสถานบ้านเรือนโจทก์ เพื่อทำลายหลักฐานวัตถุพยานระหว่างคดีและได้ฟันถอนต้นผลอาสินของโจทก์ เสียหายคิดเป็นเงิน 1,150 บาท ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 150, 175, 324

ศาลชั้นต้นเห็นว่า การกระทำตามฟ้องไม่เป็นผิดตามมาตรา 175, 176 ส่วนมาตรา 324 เป็นความผิดต่อส่วนตัว โจทก์ไม่ได้ฟ้องคดีภายใน 3 เดือนตามมาตรา 80 ขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ตามที่โจทก์ฎีกาว่า โจทก์ต้องรอฟังผลของคดีอาญาแดงที่ 760/2492 ให้ถึงที่สุดเสียก่อนจึงยังมิได้ฟ้องจำเลยนั้น เห็นว่า คดีแดงที่ 760/2492นั้นเป็นเรื่องจำเลยฟ้องโจทก์หาว่าบุกรุก หาได้เกี่ยวกับเรื่องที่โจทก์กล่าวหาว่ากระทำให้เสียทรัพย์ในคดีนี้แต่ประการใดไม่ จึงถือไม่ได้ว่าเป็นเวลาในระหว่างคดีเรื่องนี้อยู่ในศาล จึงไม่เป็นเวลาหยุดอายุความตามในมาตรา 79 ยังต้องนับอายุความตามมาตรา 80 อยู่ส่วนมาตรา 175, 176 ก็เป็นความผิด ซึ่งผู้รับใช้ยังมิได้กระทำมาตรา 150 ก็ไม่ตรงแก่เรื่องที่โจทก์ฟ้อง

จึงพิพากษายืน

Share