แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ค่าซ่อมรถ โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดรถยนต์คันที่จำเลยมาซ่อมกับโจทก์และยังมิได้รับคืนไป ผู้ร้องร้องขัดทรัพย์ ในคดีเรื่องร้องขัดทรัพย์ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า รถยนต์คันพิพาทเป็นของผู้ร้องซึ่งมิใช่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาของโจทก์ โจทก์จะยึดทรัพย์ของผู้ร้องมาขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้โจทก์เป็นการไม่ชอบจะนำเรื่องสิทธิยึดหน่วงมาใช้บังคับกรณีนี้ไม่ได้มีคำสั่งให้ถอนการยึดรถยนต์คันพิพาทนั้นโจทก์ไม่อุทธรณ์คัดค้าน คดีเป็นอันถึงที่สุดไปแล้วดังนี้ โจทก์จึงต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลอันถึงที่สุดแล้วนั้น โดยต้องคืนรถยนต์คันพิพาทให้ผู้ร้องผู้เป็นเจ้าของไม่มีสิทธิยึดหน่วงรถยนต์คันพิพาทไว้อีกต่อไป(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 10/2524)
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระค่าซ่อมรถยนต์และค่าซื้อสินค้าถ้าไม่ชำระให้เอารถยนต์ที่นำมาซ่อมขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ ศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดให้จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ แต่ที่โจทก์ขอให้นำรถยนต์ที่ซ่อมออกขายทอดตลาดเป็นเรื่องการบังคับคดี ไม่จำต้องมีคำสั่งในคำพิพากษา โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดรถยนต์ที่จำเลยมาซ่อมและยังอยู่ที่โจทก์เพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ ก่อนที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะทำการขายทอดตลาดผู้ร้องยื่นคำร้องว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นของผู้ร้อง ขอให้ปล่อยจากการยึดโจทก์คัดค้าน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ถอนการยึดรถยนต์คันพิพาท โจทก์ไม่อุทธรณ์คดีเป็นอันถึงที่สุด แล้วผู้ร้องยื่นคำแถลงขอให้มีคำสั่งแจ้งไปยังโจทก์ให้ส่งมอบรถยนต์คันพิพาทคืนผู้ร้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ไปขอรับจากเจ้าพนักงานบังคับคดี
ต่อมาผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปติดต่อขอรับรถยนต์คืนจากผู้เก็บรักษาแทนกรมบังคับคดีแล้ว (ในชั้นยึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาดเจ้าพนักงานบังคับคดีมอบให้ผู้แทนโจทก์รักษารถยนต์คันพิพาท แล้วผู้แทนโจทก์ให้พนักงานของโจทก์เป็นผู้รักษาไว้) แต่โจทก์ไม่ยอมคืนให้ผู้ร้อง อ้างว่าขอใช้สิทธิยึดหน่วงรถยนต์คันพิพาทไว้ต่อไป
ศาลชั้นต้นนัดพร้อมสอบถามโจทก์ผู้ร้องและเจ้าพนักงานบังคับคดีแล้วมีคำสั่งว่า ศาลมีคำสั่งให้ถอนการยึดรถยนต์คันพิพาทแล้ว การที่พนักงานของโจทก์ซึ่งเป็นผู้รักษารถยนต์คันพิพาทแทนเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ยอมคืนให้ผู้ร้อง เป็นการปฏิบัติมิชอบด้วยกฎหมาย ให้โจทก์จัดการส่งมอบรถยนต์คันพิพาทคืนให้แก่ผู้ร้องไป
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาประชุมปรึกษาแล้ว คดีมีปัญหามาสู่ศาลฎีกาว่าภายหลังเมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ถอนการยึดรถยนต์คันพิพาทแล้ว โจทก์จะยังมีสิทธิยึดหน่วงรถยนต์คันพิพาทไว้ต่อไปอีกหรือไม่ ที่โจทก์ฎีกาว่า โจทก์ยังมีสิทธิยึดหน่วงอยู่ต่อไปจนกว่าจะได้รับชำระหนี้ค่าซ่อมรถคันพิพาทนั้น ศาลฎีกาได้พิจารณาปัญหาข้อนี้โดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่าคดีในชั้นผู้ร้องร้องขอให้ปล่อยรถยนต์คันพิพาทจากการยึดเมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่ารถยนต์คันพิพาทเป็นของผู้ร้องซึ่งมิใช่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาของโจทก์ โจทก์จะยึดทรัพย์ของผู้ร้องมาขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้โจทก์เป็นการไม่ชอบ จะนำเรื่องสิทธิยึดหน่วงมาใช้บังคับกรณีนี้ไม่ได้ มีคำสั่งให้ถอนการยึดรถยนต์คันพิพาทนั้น โจทก์ไม่อุทธรณ์คัดค้าน คดีเป็นอันถึงที่สุดไปแล้วโจทก์จึงต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลอันถึงที่สุดแล้วนั้น โดยต้องคืนรถยนต์คันพิพาทให้ผู้ร้องผู้เป็นเจ้าของ ไม่มีสิทธิยึดหน่วงรถยนต์คันพิพาทไว้อีกต่อไป
พิพากษายืน