คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2689/2546

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้พิจารณาใหม่ต่อศาลอุทธรณ์โดยเสียค่าขึ้นศาลเพียง 200 บาท แต่โดยที่คำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในกรณีนี้หากเป็นไปในทางอนุญาตตามคำร้องของจำเลยย่อมมีผลกระทบต่อคดีทั้งคดีเนื่องจากประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 เบญจ วรรคสาม ให้ถือว่าคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเป็นอันเพิกถอนไปในตัว ดังนั้น จึงเป็นการอุทธรณ์คำพิพากษาซึ่งจะต้องปฏิบัติตามมาตรา 229 ซึ่งผู้อุทธรณ์ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาหรือคำสั่งมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ การที่จำเลยยื่นอุทธรณ์โดยชำระเพียงค่าขึ้นศาลโดยมิได้วางเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวมาด้วย ย่อมเป็นการไม่ชอบ ศาลชอบที่จะมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ได้ทันที กรณีมิใช่เรื่องการมิได้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลโดยถูกต้องครบถ้วนตามมาตรา 18 ที่ศาลจะต้องสั่งให้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลให้ถูกต้องครบถ้วนเสียก่อนที่จะสั่งไม่รับคำคู่ความ

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาโดยขาดนัดให้จำเลยชำระเงิน 126,563บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ในต้นเงิน 103,317 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ศาลชั้นต้นออกคำบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษา

จำเลยยื่นคำร้องว่า จำเลยเปิดร้านประดับยนต์ชื่อฮาโมนี่ คาร์ ออดิโอ และจำเลยพักอาศัยที่ร้านดังกล่าว เป็นเวลา 11 ปี ส่วนบ้านเลขที่ตามฟ้องเป็นบ้านที่จำเลยเช่าจากนางเก็จวลี และจำเลยได้ย้ายออกไปเมื่อปี 2534 ซึ่งโจทก์ทราบดีอยู่แล้ว การที่พนักงานเดินหมายนำหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไปส่งให้แก่จำเลยโดยวิธีการปิดหมาย และรายงานว่าจำเลยย้ายไปอยู่ที่อื่น จำเลยจึงไม่ได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้อง จำเลยไม่ได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ และขาดนัดพิจารณาคำพิพากษาศาลชั้นต้นไม่ถูกต้องเพราะสัญญากู้ยืมเงินที่โจทก์นำมาฟ้องจำเลยดังกล่าวไม่มีมูลหนี้ ขอให้พิจารณาคดีใหม่

ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง

จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์จำเลย

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า ที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้พิจารณาใหม่ต่อศาลอุทธรณ์โดยเสียค่าขึ้นศาลมาเพียง 200บาท แต่โดยที่คำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในกรณีนี้หากเป็นไปในทางอนุญาตตามคำร้องของจำเลยซึ่งก็ย่อมมีผลกระทบต่อคดีทั้งคดี เนื่องจากประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 เบญจ วรรคสาม ให้ถือว่าคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเป็นอันเพิกถอนไปในตัว ดังนั้น กรณีจึงเป็นการอุทธรณ์คำพิพากษาซึ่งจะต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 กล่าวคือ จำเลยซึ่งเป็นผู้อุทธรณ์จะต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาหรือคำสั่งมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์นั้นด้วย การที่จำเลยยื่นอุทธรณ์โดยชำระแต่ค่าขึ้นศาลและมิได้วางเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวมาด้วย ย่อมเป็นการไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 ศาลชอบที่จะมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยได้ทันทีกรณีมิใช่เรื่องการมิได้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลโดยถูกต้องครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 ที่จะต้องให้ศาลสั่งให้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลให้ถูกต้องครบถ้วนเสียก่อนที่จะสั่งไม่รับคำคู่ความ ที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยจึงชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share