คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16991/2555

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 296 วรรคสอง ต้องเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง และเกิดความเสียหายแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ลูกหนี้ตามคำพิพากษา หรือบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี แม้ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ซื้อทรัพย์เดิมจากการขายทอดตลาดจะเป็นบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีก็ตาม แต่เมื่อปรากฏว่าหลังจากผู้ร้องประมูลซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างได้จากการขายทอดตลาดแล้ว ผู้ร้องไม่ชำระราคา เป็นเหตุให้เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องนำทรัพย์ออกขายทอดตลาดใหม่ จากนั้นผู้ซื้อทรัพย์ประมูลซื้อในราคาซึ่งสูงกว่าราคาที่ผู้ร้องประมูลซื้อไว้ครั้งก่อน จึงไม่มีราคาทรัพย์ส่วนที่ขาดที่ผู้ร้องจะต้องรับผิดตาม ป.พ.พ. มาตรา 516 ผู้ร้องจึงไม่ใช่ผู้ต้องเสียหายเพราะเหตุที่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมาย ไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 391,652.70 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 19.5 ต่อปี ของต้นเงิน 280,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากไม่ชำระให้ยึดที่ดินตาม น.ส. 3 ข. เลขที่ 1689 ตำบลเขาสามยอด อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี พร้อมสิ่งปลูกสร้างขายทอดตลาด หากได้เงินไม่พอชำระหนี้ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยที่ 1 ขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้โจทก์จนครบ กับให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ ต่อมาจำเลยทั้งสามไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์ขอให้บังคับคดีเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างออกขายทอดตลาด ผู้ซื้อทรัพย์เป็นผู้ประมูลซื้อได้ในราคา 148,000 บาท
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด
ผู้ซื้อทรัพย์ยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ระหว่างพิจารณาบริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด ยื่นคำร้องขอเข้าสวมสิทธิเป็นคู่ความแทนโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ในวันนัดไต่สวนคำร้องของผู้ร้องครั้งที่ 2 ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างว่า ทนายผู้ร้องป่วย ไม่สามารถมาศาลได้ ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ผู้ร้องเลื่อนคดี และให้ผู้ร้องนำพยานเข้าสืบ ผู้ร้องแถลงว่า ไม่พร้อมสืบพยานในวันนี้ ศาลชั้นต้นถือว่าผู้ร้องไม่มีพยานมาสืบ ให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังเป็นยุติว่า ผู้ร้องเคยเป็นผู้ประมูลซื้อที่ดินตาม น.ส. 3 ข. เลขที่ 1689 ตำบลเขาสามยอด อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี พร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ 1 ได้จากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดี 2 ครั้ง ในราคา 135,000 บาท และในราคา 140,000 บาท ผู้ร้องวางเงินมัดจำไว้บางส่วน แต่ไม่ได้ชำระราคาส่วนที่เหลือทั้ง 2 ครั้ง ต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีนำที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างออกขายทอดตลาดใหม่ ผู้ซื้อทรัพย์เป็นผู้ประมูลซื้อได้ในราคา 148,000 บาท
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่า ผู้ร้องมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีหรือไม่ ที่ผู้ร้องฎีกาว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ได้ส่งประกาศขายทอดตลาดให้ผู้ร้องตามที่อยู่ใหม่ ทำให้ผู้ร้องขาดโอกาสเข้าสู้ราคา และผู้ร้องได้ซ่อมแซมบ้านบนที่ดินที่ขายทอดตลาดเสียค่าใช้จ่ายไป 55,000 บาท ผู้ร้องจึงได้รับความเสียหาย และมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด เห็นว่า การขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง จะต้องเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง และเกิดความเสียหายแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ลูกหนี้ตามคำพิพากษา หรือบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี บุคคลดังกล่าวจึงจะมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดได้ ดังนั้น แม้ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ซื้อทรัพย์เดิมจากการขายทอดตลาดจะเป็นบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีก็ตาม แต่เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าหลังจากผู้ร้องประมูลซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างได้จากการขายทอดตลาดในราคา 140,000 บาท แล้วผู้ร้องไม่ได้ชำระราคา เป็นเหตุให้เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องนำทรัพย์ออกขายทอดตลาดใหม่ จากนั้นผู้ซื้อทรัพย์เป็นผู้ประมูลซื้อได้ในราคา 148,000 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาที่ผู้ร้องประมูลซื้อไว้ครั้งก่อน จึงไม่มีราคาทรัพย์ส่วนที่ขาดที่ผู้ร้องจะต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 516 ผู้ร้องจึงไม่ใช่ผู้ต้องเสียหายเพราะเหตุที่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมาย ส่วนความเสียหายที่ผู้ร้องอ้างว่าได้ซ่อมแซมบ้านบนที่ดินที่ขายทอดตลาดนั้น เห็นว่า หากเป็นความจริงก็เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำของผู้ร้องเอง มิใช่เป็นการกระทำของเจ้าพนักงานบังคับคดี จึงไม่อาจยกขึ้นเป็นเหตุที่จะเพิกถอนการขายทอดตลาดได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดนั้นชอบแล้ว ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share