คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1685/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

จำเลยที่2เป็นเจ้าของที่ดินบริเวณสยามสแควร์มอบให้จำเลยที่1ดูแลความเรียบร้อยและจัดการจราจรภายในที่ดินดังกล่าวเมื่อมีรถยนต์เข้ามาในบริเวณสถานที่ดังกล่าวพนักงานของจำเลยที่1จะออกบัตรให้และเจ้าของรถจะต้องคืนบัตรเมื่อนำรถออกไปหากจอดรถจะต้องเสียค่าบริการแต่เจ้าของรถเป็นผู้เลือกสถานที่จอดรถเปิดปิดประตูและเก็บกุญแจรถไว้เองหากเจ้าของรถจะเคลื่อนย้ายรถหรือนำรถออกจากที่จอดหรือนำไปจอดที่ใดในบริเวณนั้นก็ทำได้เองโดยไม่ต้องแจ้งให้พนักงานของจำเลยที่1ทราบเช่นนี้รถยนต์ที่นำมาจอดยังอยู่ในความครอบครองของเจ้าของรถกรณีจึงไม่ใช่การฝากทรัพย์เพราะไม่มีการส่งมอบทรัพย์สินให้แก่จำเลยทั้งสองหรือพนักงานของจำเลยทั้งสองและจำเลยทั้งสองได้ตกลงจะรักษารถยนต์คันดังกล่าวไว้ในอารักขาแห่งตนแล้วจะคืนให้จำเลยจึงไม่มีข้อผูกพันที่จะต้องรับผิดในการที่รถยนต์ซึ่งนำมาจอดในที่ดินบริเวณนั้นสูญหายไป.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ เป็น ผู้ รับประกันภัย ใน รถยนต์ หมายเลข ทะเบียน 5ค-4853 ของ นางสาว เรวดี (บัวเร็ว) จันทราพูน ซึ่ง ได้ นำ รถยนต์คัน ดังกล่าว ไป ฝาก ไว้ กับ พนักงาน ของ จำเลย ทั้ง สอง ใน บริเวณศูนย์การค้า สยามสแควร์ แต่ พนักงาน ของ จำเลย ละเลย ไม่ ระมัด ระวังดูแล รถยนต์ ที่ รับฝาก เป็น เหตุ ให้ รถยนต์ ดังกล่าว สูญหาย ไปจำเลย ที่ 1 เป็น นิติบุคคล ประเภท สมาคม ดำเนิน ธุรกิจ รับฝาก รถยนต์ใน บริเวณ ศูนย์การค้า สยามสแควร์ จำเลย ที่ 2 เป็น นิติบุคคล ประเภททบวงการเมือง และ เป็น เจ้าของ ที่ดิน บริเวณ ศูนย์การค้า สยามสแควร์โจทก์ ได้ จ่าย เงิน ค่า สินไหมทดแทน ให้ นางสาว เรวดี แล้ว จึง รับช่วงสิทธิ มา ฟ้อง คดีนี้ ขอ ให้ จำเลย ทั้ง สอง ร่วมกัน ชดใช้ เงิน 128,700 บาท แก่ โจทก์ ให้ จำเลย ทั้ง สอง เสีย ดอกเบี้ย ร้อยละ 7 ครึ่ง ต่อปีใน ต้นเงิน 99,000 บาท นับแต่ วันฟ้อง จนกว่า จะ ชำระ เสร็จ ด้วย
จำเลย ที่ 1 ขาดนัด ยื่น คำให้การ และ ขาดนัด พิจารณา
จำเลย ที่ 2 ให้การ ว่า การ จอดรถ ใน บริเวณ สยามสแควร์ ผู้ ขับรถมิได้ ส่งมอบ การ ครอบครอง รถ ให้ อยู่ ใน ความ ดูแล ของ จำเลย ที่ 1โดย ผู้ ขับรถ เป็น ผู้เก็บ รักษา กุญแจ ล็อครถ เอง และ จะ นำ รถเคลื่อนย้าย ไป ที่ ใดๆ ก็ ได้ จำเลย ที่ 2 ไม่ต้อง ร่วม รับผิด กับจำเลย ที่ 1 ขอ ให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว เห็น ว่า ข้อเท็จจริง ไม่ เป็น การ ฝากทรัพย์ อัน จะ มี ผล ให้ จำเลย ทั้ง สอง ต้อง รับผิด ชดใช้ ค่าเสียหายแก่ โจทก์ พิพากษา ยกฟ้อง ให้ โจทก์ ใช้ ค่าฤชา ธรรมเนียม แทน จำเลย ที่ 2 โดย กำหนด ค่าทนายความ 2,000 บาท
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ยืน ให้ โจทก์ ใช้ ค่าทนายความ ชั้นอุทธรณ์ 1,000บาท แทน จำเลย ที่ 2
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า ‘การ ฝาก ทรัพย์ มี บัญญัติ ไว้ ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 657 ว่า ผู้ฝาก จะ ต้อง ส่งมอบทรัพย์สิน ให้ แก่ ผู้ รับฝาก และ ผู้ รับฝาก ตกลง ว่า จะ เก็บ รักษาทรัพย์สิน นั้น ไว้ ใน อารักขา แห่ง ตน แล้ว จะ คืน ให้ฯลฯ จำเลย ที่2 เป็น เจ้าของ ที่ดิน บริเวณ สยามสแควร์ และ ให้ จำเลย ที่ 1 ดูแลความ เรียบร้อย จัดการ จราจร ใน บริเวณ ดังกล่าวฯ เมื่อ มี รถยนต์ เข้ามา ใน บริเวณ สยามสแควร์ พนักงาน ของ จำเลย ที่ 1 จะ ออก บัตร ให้และ บัตร ดังกล่าว จะ ต้อง ส่งคืน เมื่อ นำ รถ กลับ ออก ไป หาก ไม่จอด รถ เจ้าของ รถ ก็ ไม่ต้อง เสีย ค่าใช้จ่าย ใดๆ ถ้า จอด รถ จึง จะเสีย ค่าบริการ 3 บาท ซึ่ง ให้ สิทธิ จอด ได้ ตลอดวัน แต่ เจ้าของ รถเป็น ผู้ เลือก ที่จอด รถ เอง เปิด ปิด ล็อก ประตู เอง และ เก็บ กุญแจรถติดตัว ไป ด้วย การ นำ รถ ออก จาก ที่จอด ก็ ไม่ต้อง บอกกล่าว ให้พนักงาน ของ จำเลย ที่ 1 ทราบ และ จะ เคลื่อนย้าย นำ รถ ไป จอด ที่ใดใน บริเวณ สยามสแควร์ อีก ก็ ได้ ซึ่ง ข้อเท็จจริง ดังกล่าว เห็น ได้ชัด อยู่แล้ว ว่า รถยนต์ ที่ นำ มา จอด ยัง อยู่ ใน ความ ครอบครอง ของเจ้าของ รถ ดังนั้น แม้ นางสาว เรวดี จันทราพูน จะ เสีย ค่าบริการ จอดรถ 3 บาท และ รถยนต์ รายพิพาท ได้ สูญหาย ไป ใน ขณะ จอด ไว้ ใน บริเวณสยามสแควร์ แต่ นางสาว เรวดี จันทราพูน ก็ ไม่ ได้ ส่งมอบ รถยนต์รายพิพาท ให้แก่ จำเลย ทั้งสอง หรือพนักงาน ของ จำเลย ทั้งสอง และ จำเลยทั้ง สอง ได้ ตกลง จะ รักษา รถยนต์ คัน ดังกล่าว ไว้ ใน อารักขา แห่งตน แล้ว จะ คืน ให้ ซึ่ง เข้า ลักษณะ เป็น การ ฝาก ทรัพย์ และ มี ข้อผูกพัน ให้ จำเลย ทั้ง สอง จะ ต้อง รับผิด ต่อ โจทก์ ตาม ฟ้อง ศาลล่างทั้ง สอง พิพากษา ยกฟ้อง ชอบ แล้ว ฎีกา ของ โจทก์ ฟัง ไม่ ขึ้น
พิพากษา ยืน ให้ โจทก์ ใช้ ค่าทนายความ ชั้นฎีกา 1,000 บาท แทน จำเลยที่ 2’

Share