คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1684/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ขุดลอกหนองน้ำสาธารณะเฉพาะบางส่วนเพื่อใช้น้ำและดักปลา โดยปลาเข้ามาในหนองในฤดูน้ำหลาก แล้วติดอยู่กับหนองส่วนที่โจทก์ขุดลอกออกไปไหนไม่ได้ในฤดูน้ำลด เช่นนี้แม้ปลาจะออกจากหนองไม่ได้ในฤดูน้ำลด ปลาก็ยังไม่เป็นของโจทก์จำเลยจับปลาในหนอง จึงไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 32/2513)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกลักปลาไปจากบ่อล่อปลาของโจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๔, ๘๓
เมื่อศาลไต่สวนมูลฟ้องและสั่งประทับฟ้องแล้ว คงทำการพิจารณาเฉพาะจำเลยที่ ๒ ที่ ๔ ที่ ๗ ที่ ๘ และที่ ๙ ส่วนจำเลยอื่น โจทก์ถอนฟ้องและศาลจำหน่ายคดีเพราะโจทก์ทิ้งฟ้อง
จำเลยที่ ๒ ที่ ๔ ที่ ๗ ที่ ๘ และที่ ๙ ให้การปฏิเสธ โดยต่อสู้ว่าจำเลยจับปลาในหนองน้ำสาธารณะ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งห้าคนนี้จับปลาในหนองโดยขาดเจตนาทุจริต พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยทั้งห้าจับหลาในหนองสาธารณะซึ่งโจทก์ได้ปกครองอยู่ จำเลยที่ ๒ ที่ ๔ ที่ ๗ ที่ ๘ มีเจตนาทุจริต จึงมีความผิดส่วนจำเลยที่ ๙ เป็นคนมาจากที่อื่น ไม่มีเจตนาทุจริต พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยที่ ๒ ที่ ๔ ที่ ๗ ที่ ๘ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๔ ให้จำคุกคนละ ๓ เดือน แต่ให้รอการลงโทษไว้ภายในกำหนด ๑ ปี
จำเลยที่ ๒ และที่ ๗ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ แล้วมีมติว่า หนองน้ำมาบทองที่โจทก์ฟ้องเป็นหนองน้ำสาธารณะ ปลาเข้ามาในหนองตามธรรมชาติโจทก์เพียงแต่ขุดลอกหนองกว้างยาวด้านละ ๑๐ วา แม้โจทก์อาจมีเจตนาให้ปลาตกอยู่ในหนองในฤดูน้ำลดก็ตาม แต่โจทก์มิได้ขุดเป็นบ่อต่างหากหรือกั้นเขตเป็นสัดส่วน ปลายังอยู่ในหนองได้โดยอิสระ จะถือว่าปลาเป็นของโจทก์ยังไม่ได้ การที่จำเลยที่ ๒ และที่ ๗ จับปลาในหนองสาธารณะจึงไม่มีความผิด และกรณีนี้เป็นเหตุในลักษณะคดี แม้จำเลยที่ ๔ ที่ ๘จะมิได้ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษายกฟ้องตลอดไปถึงจำเลยที่ ๔ ที่ ๘ ด้วยได้
พิพากษาแก้เป็นว่าให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๒ ที่ ๔ ที่ ๗ ที่ ๘นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share