คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1740/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ระเบียบว่าด้วยการช่วยเหลือลูกจ้างเกี่ยวแก่การศึกษาของบุตรกำหนดว่า ลูกจ้างที่มีสิทธิจะได้รับการช่วยเหลือดังกล่าวจะต้องเป็นผู้ที่มีรายได้อันได้แก่เงินที่นายจ้างจ่ายให้เพื่อตอบแทนการทำงานลูกจ้างที่ถูกพักงานแม้จะมีระเบียบให้จ่ายเงินแก่ลูกจ้าง เงินนี้ก็มิใช่เงินที่จ่ายเพื่อตอบแทนการทำงาน นอกจากนี้ระเบียบดังกล่าวยังกำหนดให้ลูกจ้างผู้มีสิทธิเบิกค่าเล่าเรียนบุตรภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้ชำระเงินให้โรงเรียน และมิได้ระบุถึงสิทธิของลูกจ้างที่ถูกพักงานดังนั้นระเบียบนี้จึงให้สิทธิเฉพาะลูกจ้างที่ทำงานตามปกติเท่านั้น ลูกจ้างที่ถูกพักงานไม่มีสิทธิได้รับการช่วยเหลือเงินค่าเล่าเรียนบุตร

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างประจำ จำเลยได้สั่งพักงานโจทก์ในระหว่างต้องหาคดีอาญา เมื่อศาลยกฟ้อง จำเลยจึงรับโจทก์กลับเข้าทำงานแต่ไม่ยอมจ่ายเงินค่าเล่าเรียนบุตรของโจทก์ในระหว่างที่โจทก์ถูกพักงาน ขอให้บังคับจำเลยจ่ายเงินดังกล่าวจำนวน ๓๒,๖๔๕ บาทแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์มิได้ยื่นคำร้องขอเบิกค่าเล่าเรียนบุตรภายในเวลาที่ระเบียบว่าด้วยการช่วยเหลือพนักงานผู้มีรายได้น้อยเกี่ยวกับการศึกษาของบุตรในโรงเรียน พ.ศ. ๒๕๒๓ กำหนดไว้ และโจทก์เป็นผู้ที่ไม่มีสิทธิได้รับการช่วยเหลือเพราะโจทก์ไม่มีรายได้เป็นเงินเดือนที่จำเลยจ่ายให้เพื่อตอบแทนการทำงาน ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายเงินค่าเล่าเรียนบุตรแก่โจทก์เป็นเงิน ๓๒,๖๔๕ บาท
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ตามระเบียบว่าด้วยการช่วยเหลือพนักงานผู้มีรายได้น้อยเกี่ยวแก่การศึกษาของบุตรในโรงเรียน พ.ศ. ๒๕๑๘ ข้อ ๔ และ ข้อ ๕ พนักงานที่มีสิทธิจะได้รับการช่วยเหลือเงินบำรุงการศึกษาและหรือค่าเล่าเรียนต้องเป็นพนักงานที่มีรายได้ ข้อ ๓ คำว่ารายได้ หมายความว่า เงินเดือนที่ได้รับจากองค์การเป็นรายเดือน รายวัน หรือรายชั่วโมงเป็นประจำเพื่อเป็นการตอบแทนการทำงาน และตามระเบียบว่าด้วยการจ่ายค่าจ้างระหว่างถูกสั่งพักงาน พ.ศ. ๒๕๑๘ ข้อ ๓ พนักงานผู้ใดถูกสั่งพักงานให้งดจ่ายค่าจ้างตั้งแต่วันที่ให้พักงานเป็นต้นไป คำว่า ค่าจ้างหมายความว่าเงินเดือนหรือค่าแรงซึ่งเป็นการตอบแทนการทำงานเช่นเดียวกัน ฉะนั้นพนักงานที่ถูกพักงานไม่ได้รับค่าจ้างหรือรายได้ซึ่งเป็นการตอบแทนการทำงาน จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินบำรุงการศึกษา และหรือเงินค่าเล่าเรียนตามระเบียบของจำเลยดังกล่าว แม้ว่าตามระเบียบว่าด้วยการจ่ายค่าจ้างระหว่างถูกสั่งพักงาน พ.ศ. ๒๕๑๘ ข้อ ๔ ถ้าปรากฏว่าพนักงานผู้ถูกสั่งพักงานมิได้กระทำผิดและไม่มีมลทินหรือมัวหมอง ให้จ่ายค่าจ้างระหว่างพักงานให้เต็มข้อ ๕ และข้อ ๖ ให้จ่ายค่าจ้างให้ตามส่วนของความผิด คำว่าค่าจ้างตามข้อ ๔, ๕, ๖ ดังกล่าวหาได้หมายความว่าเป็นเงินเดือนหรือค่าแรงที่พนักงานได้รับเป็นการตอบแทนการทำงาน ตามความหมายของคำว่าค่าจ้างตามระเบียบนี้แต่อย่างใดไม่ ในระหว่างที่ลูกจ้างถูกพักงานโดยชอบ ลูกจ้างหรือพนักงานไม่ได้ทำงาน ย่อมไม่ได้ค่าจ้างนายจ้างย่อมมีสิทธิที่จะไม่จ่ายค่าจ้าง แต่ที่โจทก์มีสิทธิได้รับเงินที่นายจ้างจ่ายให้ระหว่างพักงานนั้น เป็นเพราะนายจ้างหรือจำเลยได้มีระเบียบไว้เช่นนั้น ส่วนระเบียบว่าด้วยการช่วยเหลือพนักงานผู้มีรายได้น้อยเกี่ยวแก่การศึกษาของบุตรในโรงเรียน พ.ศ. ๒๕๑๘ เป็นระเบียบที่ใช้บังคับสำหรับพนักงานที่ทำงานอยู่ตามปกติ จะเห็นได้จากข้อ ๖ พนักงานผู้มีสิทธิได้รับการช่วยเหลือให้เสนอรายงานขอรับการช่วยเหลือต่อผู้บังคับบัญชาชั้นต้นให้เป็นการเสร็จสิ้นภายใน ๖๐ วัน นับแต่วันที่ได้ชำระเงินให้โรงเรียนไปแล้วหากพ้นกำหนดให้ถือว่าผู้ที่ยังมิได้รายงานขอเบิกสละสิทธิ ตามระเบียบนี้มิได้ระบุให้พนักงานหรือลูกจ้างที่ถูกพักงานหรือเมื่อกลับเข้าทำงานและได้รับเงินเดือนเพราะมิได้กระทำความผิด และไม่มีมลทินหรือมัวหมองให้ได้รับการช่วยเหลือเงินบำรุงการศึกษาหรือและเงินค่าเล่าเรียน พนักงานหรือลูกจ้างรวมทั้งโจทก์ซึ่งถูกพักงานจึงไม่มีสิทธิได้รับการช่วยเหลือเงินบำรุงการศึกษาและเงินค่าเล่าเรียนตามระเบียบของจำเลยดังกล่าวแล้วแต่ประการใด คำวินิจฉัยของศาลแรงงานกลางข้อนี้ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา และคำวินิจฉัยข้อนี้เป็นผลดีแก่จำเลยอยู่แล้ว จึงไม่จำต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยข้ออื่น
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share