คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บันทึกการแบ่งทรัพย์ที่เจ้ามรดกทำขึ้นมิได้ลงลายมือชื่อหรือลายพิมพ์นิ้วมือของเจ้ามรดก จึงไม่มีผลเป็นพินัยกรรม แม้จะถือว่าเจ้ามรดกแสดงเจตนากำหนดข้อพินัยกรรมด้วยวาจาต่อหน้า ค.และอ. เพราะเจ้ามรดกไม่สามารถจะทำพินัยกรรมตามแบบอื่นที่กำหนดไว้ได้ แต่ ค.และอ.ก็มิได้ไปแสดงตนต่อกรมการอำเภอและแจ้งข้อความที่ผู้ทำพินัยกรรมได้สั่งไว้ ตลอดจนวันเดือนปี สถานที่ที่ทำพินัยกรรม และพฤติการณ์พิเศษ บันทึกการแบ่งทรัพย์ย่อมตกเป็นโมฆะ ไม่มีผลเป็นพินัยกรรม จำเลยซึ่งมิได้เป็นภรรยาเจ้ามรดกโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีสิทธิอ้างเอาประโยชน์จากบันทึกนี้ได้ และไม่มีสิทธิรับมรดก
เจ้ามรดกยังไม่ได้ยกทรัพย์พิพาทให้จำเลย การให้ย่อมยังไม่สมบูรณ์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นบุตรนายใส สุทธิวิเศษ เจ้ามรดก นายใสถึงแก่กรรมเมื่อเดือน 6 ปีนี้ มีมรดกตกทอดได้แก่โจทก์คือเรือน 1 หลัง ยุ้งข้าว 1 หลัง นา 1 แปลง ก่อนนายใสถึงแก่กรรม นายใสมิได้ทำพินัยกรรมยกให้แก่ผู้ใด แต่ได้สั่งด้วยวาจาว่าให้แก่โจทก์ผู้เดียวนายใสถึงแก่กรรมแล้ว 4-5 วัน โจทก์จะเข้าครอบครองเรือนยุ้งข้าวและนามรดก จำเลยโต้แย้งว่าเป็นของจำเลยโดยนายใสยกให้ จึงขอให้แสดงว่าทรัพย์ที่พิพาท คือ เรือน ยุ้งข้าวและนาเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง

จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นภรรยานายใส ก่อนถึงแก่กรรม นายใสเชิญกำนันและบุคคลอื่นอีกหลายคนมาทำหนังสือพินัยกรรมแบ่งทรัพย์เรือน และที่นาส่วนที่ 2 ให้จำเลย ฯลฯ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ทรัพย์ดังกล่าวเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้อง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า แม้จะฟังข้อเท็จจริงว่าได้ทำบันทึกการแบ่งทรัพย์ตามเอกสารหมาย ล.1 ดังที่จำเลยนำสืบจริง แต่บันทึกนั้นก็มิได้ลงลายมือชื่อหรือลงลายพิมพ์นิ้วมือของนายใสเจ้ามรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1665 และแม้จะถือว่านายใสได้แสดงเจตนากำหนดข้อพินัยกรรมด้วยวาจาต่อหน้านายคงศักดิ์ นายอินปัน เพราะนายใสไม่สามารถจะทำพินัยกรรมตามแบบอื่นที่กำหนดไว้ได้ แต่นายคงศักดิ์ นายอินปันพยานสองคนนั้นก็มิได้ไปแสดงตนต่อกรมการอำเภอและแจ้งข้อความที่ผู้ทำพินัยกรรมได้สั่งไว้ ตลอดจนวันเดือนปี สถานที่ที่ทำพินัยกรรม และพฤติการณ์พิเศษนั้น การแสดงเจตนากำหนดข้อพินัยกรรมของนายใสมิได้มีการปฏิบัติให้ครบถ้วนบริบูรณ์ตามมาตรา 1663 บันทึกการแบ่งทรัพย์มรดกย่อมตกเป็นโมฆะตามมาตรา 1705 ไม่มีผลเป็นพินัยกรรมจำเลยไม่มีสิทธิจะอ้างเอาประโยชน์จากบันทึกฉบับนี้ได้ และไม่มีสิทธิรับมรดกด้วยเพราะจำเลยมิได้เป็นภรรยาของนายใสเจ้ามรดกโดยชอบด้วยกฎหมาย ที่จำเลยฎีกาว่า แม้พินัยกรรมจะไม่สมบูรณ์ แต่การให้ย่อมสมบูรณ์นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าตามข้อเท็จจริง นายใสยังไม่ได้ยกทรัพย์รายพิพาทให้จำเลยเพราะบันทึกมีข้อกำหนดว่าให้มีผลเมื่อตายแล้ว ฉะนั้น ทรัพย์รายพิพาทจึงยังไม่ตกเป็นของจำเลย

พิพากษายืน

Share