แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อจะเริ่มขุดท่อระบายน้ำ สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ได้ส่งหนังสือในงานราชการของกรุงเทพมหานครพร้อมแบบแปลน ให้หน่วยงานสาธารณูปโภคทราบ แสดงว่าเอกสารเป็นสำเนาหนังสือราชการ ซึ่งต้นฉบับถูกส่งให้แก่หน่วยงานสาธารณูปโภคแล้ว จำเลยสามารถหาสำเนามาส่งศาลเป็นพยานหลักฐานเท่านั้น ซึ่งจำเลยระบุไว้ในบัญชีพยานเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ลงวันที่ 30 เมษายน 2555 และได้นำมาถามค้าน ส. พยานโจทก์ โดยโจทก์ไม่ได้คัดค้านการยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติมและการอ้างส่งเอกสารศาลจึงรับฟังเอกสารเป็นพยานหลักฐานในสำนวนได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 1,786,075.84 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 1,665,285.61 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่าเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2553 ลูกจ้างหรือตัวแทนของจำเลยขุดเจาะถนนบริเวณซอยราชวิถี 2 ถนนราชวิถี แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร เป็นเหตุให้สายเคเบิลขนาด 1,500 คู่สาย สายเคเบิลขนาด 3,000 คู่สาย และอุปกรณ์หัวต่อของโจทก์ได้รับความเสียหาย มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ประการแรกว่า ต้องห้ามรับฟังหรือไม่ เห็นว่า ฝ่ายจำเลยมีนายศิวพล ข้าราชการตำแหน่งวิศวกรผู้ควบคุมงานของสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร เบิกความว่า เมื่อจะเริ่มขุดท่อระบายน้ำได้ส่งหนังสือตามสำเนาหนังสือพร้อมแบบแปลน ให้หน่วยงานสาธารณูปโภคทราบ แสดงว่าเป็นสำเนาหนังสือราชการ ซึ่งต้นฉบับถูกส่งให้แก่หน่วยงานสาธารณูปโภคแล้ว จำเลยสามารถหาสำเนามาส่งศาลเป็นพยานหลักฐานเท่านั้น ซึ่งจำเลยระบุไว้ในบัญชีพยานเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ลงวันที่ 30 เมษายน 2555 และได้นำมาถามค้านนายสิทธิโชค พยานโจทก์ โดยโจทก์ไม่ได้คัดค้านการยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติมและการอ้างส่งเอกสาร ศาลจึงรับฟังเอกสาร เป็นพยานหลักฐานในสำนวนได้
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ