แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
นายสนามม้าขององค์การทหารผ่านศึกมีหน้าที่ปกครองบังคับบัญชาคนทำงานและรับผิดชอบในกิจการแข่งม้า เมื่อเกิดมีการทุจริตยักยอกเงินของสนามม้าขึ้น นายสนามม้านั้นย่อมเป็นผู้เสียหายด้วย และมีอำนาจร้องทุกข์ให้เจาพนักงานนำคดีขึ้นว่ากล่าวได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 36/2504)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองเป็นลูกจ้างของสนามแข่งม้าองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกนครราชสีมา โดยมีพันเอกพระยาฤทธิรงค์รณเฉทเป็นผู้อำนวยการ จำเลยได้ร่วมกันกระทำทุจริต ใช้อุบายหลอกลวงประชาชน และพันเอกพระยาฤทธิรงค์รณเฉทหลงเชื่อ โดยจดแจ้งรายการเท็จในการขายตั๋วม้ารอง เป็นเหตุให้จำเลยได้รับเงินไว้ในครอบครองและทำให้ประชาชนผู้ซื้อตั๋วม้าขาดประโยชน์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๑, ๓๔๓, ๓๕๒, ๓๕๔ ให้จำเลยคืนหรือใช้เงินด้วย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๒ ให้จำคุกไว้คนละ ๑ ปี
จำเลยทั้งสองฎีกา
มีปัญหาข้อกฎหมายมาสู่ศาลฎีกาว่า พระยาฤทธิรงค์รณเฉทเป็นผู้เสียหายหรือไม่ ทางพิจารณาได้ความว่า พระยาฤทธิรงค์รณเฉทเป็นผู้อำนวยการควบคุมการแข่งม้า หรืออีกนัยหนึ่งเรียกว่าเป็นนายสนามม้าขององค์การทหารผ่านศึกภาค ๒ นครราชสีมา มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบในกิจการทั้งหลายของสนามม้า เช่น การอนุญาตให้แข่งม้า รายได้ รายจ่าย ผลกำไร ขาดทุน การตรวจรับรองบัญชีเงินและปกครองบังคับบัญชาคนทำงานในสนามม้า ตามข้อเท็จจริงนี้ ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า เมื่อมีผู้ใดยักยอกเงินของสนามม้าไป พระยาฤทธิรงค์รณเฉทก็ย่อมเป็นผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดนั้น ได้ชื่อว่าเป็น “ผู้เสียหาย” ตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒ (๔) แล้ว เพราะผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่งนั้น หาได้หมายความจำเพาะแต่ผู้ได้รับความเสียหายในที่สุดเช่นองค์การทหารผ่านศึกในคดีนี้เท่านั้นไม่ แต่หมายความรวมถึงผู้ได้รับความเสียหายในระหว่าง เช่น พระยาฤทธิรงค์รณเฉทในคดีนี้ด้วย ฉะนั้น ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าพระยาฤทธิรงค์รณเฉทเป็นผู้เสียหาย มีอำนาจร้องทุกข์ในคดีนี้ได้นั้น ศาลฎีกาเห็นชอบด้วย
พิพากษายืน