คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 584/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าที่ดินของโจทก์ตามสำเนาหนังสือสัญญาเช่าท้ายฟ้อง จำเลยได้ทำที่ดินที่เช่าไปหาผลประโยชน์โดยปลูกเรือนให้ผู้อื่นเช่า จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ได้เอาที่ดินที่เช่าไปหาผลประโยชน์ โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่ เพราะจำเลยเช่าปลูกเรือนอาศัยตามสัญญา เช่าข้อ 1 ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ ชั้นพิจารณาโจทก์จำเลยไม่ติดใจสืบพยานโดยขอให้ศาลวินิจฉัยข้อเดียวว่าจำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ หรือไม่ ปรากฏตามสำเนาหนังสือสัญญาเช่าท้ายฟ้องข้อ 1 มีข้อความว่าผู้เช่าขอเช่าที่ดินของผู้ให้เช่าเพื่อปลูกบ้านอยู่เป็นการให้เช่าที่ดินเพื่อปลูกเรือนอยู่อาศัย ตามข้อต่อสู้ของจำเลยซึ่งได้รับความ คุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ อยู่แล้ว เมื่อโจทก์จำเลยไม่สืบพยานโจทก์ย่อมแพ้คดี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนเรือนโรงออกไปจากที่เช่าของโจทก์ และให้จำเลยใช้ค่าเช่าที่ค้างกับค่าเสียหาย โดยกล่าวในฟ้องว่า จำเลยได้เช่าที่ดินมีโฉนด ของโจทก์ ปรากฏตามสำเนาหนังสือสัญญาเช่าท้ายฟ้อง จำเลยได้นำที่ดินที่เช่านี้ไปหาผลประโยชน์โดยปลูกโรงเรือนให้ผู้อื่นเช่า บัดนี้หมดอายุสัญญา เช่าแล้ว โจทก์ไม่ประสงค์จะให้จำเลยเช่าต่อไป ได้มีหนังสือบอกเลิกการเช่ากับจำเลยแล้ว จำเลยไม่ปฏิบัติตาม
จำเลยให้การต่อสู้คดีกว่า จำเลยไม่ผิดสัญญา ไม่ได้เอาที่ดินที่เช่าไปหาผลประโยชน์ โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่ เพราะจำเลยเช่าที่ดินปลูกเรือนอยู่อาศัยตามสัญญาเช่าข้อ ๑ และที่ดินอยู่ในเขตเทศบาลได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ ทั้งจำเลย ไม่ได้ผิดนัดชำระค่าเช่าด้วย
ชั้นพิจารณา โจทก์จำเลยแถลงรับกันว่า สัญญาเช่าท้ายฟ้องถูกต้อง ที่ดินที่เช่าอยู่ในเขตเทศบาล จำเลยได้รับคำบอกเลิกสัญญาจริง โจทก์ฟ้องตั้งประเด็นขับไล่จำเลยข้อเดียวว่าจำเลยปลูกบ้านให้ผู้อื่นเช่า จำเลยว่ามิได้ให้คนอื่นเช่า ซึ่งจำเลยได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ คู่ความขอให้ศาลวินิจฉัยข้อเดียวที่โต้เถียงกันว่าจำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ หรือไม่ เท่านั้น และไม่ติดใจสืบพยาน
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้จำเลยต่อสู้คดีว่า เช่าที่ดินโจทก์ปลูกเรือนอยู่อาศัยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯชั้นพิจารณาคู่ความรับกันว่าสัญญาเช่าท้ายฟ้องถูกต้อง ที่ดินที่เช่าอยู่ในเขตเทศบาล ตามสำเนาหนังสือสัญญาเช่าท้ายฟ้องข้อ ๑ มีข้อความว่า ผู้เช่าขอเช่าที่ดินของผู้ให้เช่าเพื่อปลูกบ้านอยู่เป็นการให้เช่าที่ดินเพื่อปลูกเรือนอยู่อาศัย ตามข้อต่อสู้ของจำเลยซึ่งได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ อยู่แล้ว จำเลยไม่จำต้องสืบพยานในข้อนี้อีก เพราะคู่ความรับกันแล้ว แต่โจทก์กลับโต้เถียงว่าจำเลยเอาเรือนไปให้คนอื่นเช่า ข้อนี้จำเลยปฏิเสธ โจทก์ต้องนำสืบให้ได้ความว่า ความจริงจำเลยไม่ได้ปลูกเรือนอยู่ตามสัญญาเช่า แต่เอาที่ดินของโจทก์ไปหาประโยชน์คือ ปลูกเรือนให้คนเช่า ซึ่งเป็นการเช่ากันตามธรรมดา ไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ เมื่อหมดอายุสัญญาแล้ว โจทก์ไม่ให้เช่าต่อ จำเลยก็ต้องออกไปดังนี้ โจทก์จึงจะชนะคดีได้ เมื่อโจทก์ไม่นำสืบ หนังสือสัญญาเช่านี้ทำไว้ต่อกันอันเป็นหลักฐานแสดงว่า จำเลยเช่าที่ดินปลูกเรือนอยู่อาศัย ไม่มีอะไรลบล้าง โจทก์ขับไล่จำเลยไม่ได้ ฯลฯ พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share