คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1680/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยมีสุราที่ผิดกฎหมายไว้ในความครอบครอง และจำเลยได้กินสุราที่มีไว้นั้น จำเลยรับว่าได้กินสุรานั้นจริง ส่วนข้อมีสุราปฏิเสธแล้วโจทก์ไม่สืบพยานดังนี้โจทก์จะกลับมาโต้แย้งว่าต้องมีไว้ในครอบครองก่อนแล้ว จึงจะกินได้นั้นย่อมฟังไม่ขึ้นเพราะความผิดฐานมีสุราเถือนกับกินสุราเถื่อนนั้นเป็นคนละฐานแยกกันได้
พ.ร.บ.สุรา พ.ศ. 2493 ไม่ได้บัญญัติความผิดฐานดื่มกินสุราผิดกฎหมายไว้ ฉะนั้นเมื่อผู้กระทำผิดฐานกินสุราผิด ก.ม.ตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน ถูกฟ้องขอให้ลงโทษฐานนี้ เมื่อใช้ พ.ร.บ.สุรา พ.ศ. 2493 แล้ว ศาลจะลงโทษจำเลยฐานกินสุราผิดกฎหมายไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยมีสุราแช่และกินสุราแช่ที่มีไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นสุราที่ทำขึ้นผิดกฎหมาย ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน ฐานมีและกินสุราเถื่อน
จำเลยปฏิเสธ
ก่อนสืบพยานโจทก์ จำเลยรับว่าได้กินสุราแช่จริงข้อมีปฏิเสธ โจทก์จำเลยไม่สืบพยาน
ศาลชั้นต้นเห็นว่าเมื่อโจทก์ไม่สืบพยานความผิดฐานมีสุราก็ตกไป คงเหลือแต่ข้อหาฐานกินสุราตามที่จำเลยรับ แต่ปรากฎว่าความผิดฐานกินสุรานี้ได้ถูกยกเลิกตาม พ.ร.บ. สุรา พ.ศ. ๒๔๙๓ เสียแล้วจึงจะลงโทษจำเลยฐานกินสุราไม่ได้ จึงพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่าการกินสุราก็คือการนำสุราเข้ามาไว้ในความครอบครองของตน แล้วดื่มกินย่อมถือว่าเป็นการมีสุราไว้ในความครอบครองได้แล้ว
ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อจำเลยรับในข้อที่ว่ากินสุราผิดกฎหมายแต่อย่างเดียว ข้อมีสุราไว้ในครอบครองจำเลยปฏิเสธโจทก์พอใจไม่สืบพยานดังนี้ โจทก์จะกลับมาโต้แย้งว่าต้องมีไว้ในครอบครองก่อนแล้ว จึงจะกินได้นั้นย่อมฟังไม่ขึ้น เพราะความผิดฐานมีสุราเถื่อนกับกินสุราเถื่อนนั้น เป็นคนละฐานแยกกันได้เมื่อ พ.ร.บ. สุรา พ.ศ. ๒๔๙๓ ไม่ได้บัญญัติความผิดฐานดื่มกินสุราผิดกฎหมายไว้ ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
จึงพิพากษายืน

Share