คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1674/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มีปืนไม่รับอนุญาต ไม่ปรากฏว่า ปืนมีทะเบียนหรือไม่ศาลไม่ริบปืน

ย่อยาว

คดีนี้จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ซึ่งกล่าวหาว่าเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2497 เวลากลางวัน จำเลยยังอาจมีอาวุธปืนแก๊ปเดี่ยวซึ่งใช้ยิงได้ 1 กระบอกไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ให้มีไว้ได้ตามกฎหมาย เหตุเกิดที่ตำบลท่าปลาดุก กิ่งอำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 ให้ปรับ 240 บาท จำเลยรับสารภาพโดยดีลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับ 120 บาท ไม่เสียค่าปรับจัดการตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 18 ส่วนปืนของกลางไม่ริบโดยเห็นว่า พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2490 ที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยไม่มีบทบัญญัติให้ริบวัตถุที่พระราชบัญญัตินี้ประสงค์จะควบคุมเหมือนพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2477 มาตรา 60 ที่ให้ยกเลิกไปนั้น ทั้งคดีไม่ต้องด้วย มาตรา 27, 28 แห่งกฎหมายลักษณะอาญาว่า เป็นทรัพย์ที่จะริบ

โจทก์อุทธรณ์ขอให้ริบอาวุธปืนของกลาง

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ทรัพย์ที่จะต้องริบตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 28 ซึ่งโจทก์อ้างอิงขึ้นมาในชั้นอุทธรณ์ต้องเป็นทรัพย์ที่เป็นผิดกฎหมายอยู่ในตัวของมัน แม้ผู้ใดจะถูกฟ้องว่ามีทรัพย์นั้นแต่พิจารณาไม่ได้ความจริงและผู้นั้นไม่ต้องรับโทษศาลก็สั่งริบทรัพย์นั้นไว้เสมอไป ส่วนข้อเท็จจริงในคดีนี้ได้ความเพียงว่าจำเลยมีปืนแก๊ป 1 กระบอก ซึ่งใช้ยิงได้ไว้ในความครอบครองโดยจำเลยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่อันชอบด้วยกฎหมาย หรือกล่าวสั้น ๆ ก็คือจำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืน แต่ได้มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองจึงเป็นความผิด แต่อาวุธปืนของกลางนี้จะเคยขึ้นทะเบียนไว้แล้วหรือยังไม่เคยขึ้นทะเบียนเลย (เป็นปืนเถื่อน) ก็ไม่ปรากฏ ไม่ชอบที่จะสันนิษฐานว่า ปืนของกลางเป็นทรัพย์อันจะต้องถูกริบเสมอไป ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 28 จึงพิพากษายืน

แต่มีผู้พิพากษานายหนึ่งทำความเห็นแย้งว่า ปืนของกลางนี้ไม่ปรากฏว่า เป็นปืนที่ผู้ใดได้รับอนุญาตมาก่อน และไม่มีเลขทะเบียนจำเลยไม่ได้อ้างว่าเป็นปืนของบุคคลอื่น หรือเป็นปืนที่ได้รับอนุญาตแล้ว ต้องถือว่า จำเลยผู้ครอบครองเป็นเจ้าของและเป็นของต้องห้ามถ้าเป็นปืนที่เคยได้รับอนุญาตจะต้องมีหมายเลขทะเบียนปรากฏมาในคำฟ้องและโจทก์ไม่ได้ฟ้องว่า ขาดต่อใบอนุญาต จำเลยมีไว้เป็นความผิดฐานฝ่าฝืนข้อห้ามตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7ย่อมเป็นของพึงต้องริบ ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 28 ควรพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ริบปืนของกลางด้วย

โจทก์ฎีกาต่อมา

ศาลฎีกาปรึกษาคดีนี้แล้ว ตามคำฟ้องและคำให้การคงได้ความเพียงว่า จำเลยมีอาวุธปืนแก๊ปไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่อันชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น ไม่ได้ความชัดว่าอาวุธปืนที่จำเลยมีไว้ในความครอบครองนั้นยังไม่เคยขึ้นทะเบียนเลยจะถือเอาคำฟ้องเป็นหลักว่า ถ้าโจทก์มิได้บรรยายความไว้ว่า เป็นปืนที่มีเลขทะเบียนหรือฟ้องว่า ขาดต่อใบอนุญาตแล้วต้องฟังว่าเป็นปืนที่ไม่เคยขึ้นทะเบียนมาก่อนเสมอไปหาได้ไม่ และจำเลยไม่จำต้องอ้างว่าเป็นของบุคคลอื่นหรือเป็นปืนที่ได้รับอนุญาตแล้ว เพราะเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องกล่าวมาในคำฟ้องให้ชัดเจนและนำสืบให้สม เมื่อข้อเท็จจริงได้ความเท่าที่กล่าวแล้ว จึงยังไม่มีเหตุต้องริบปืนของกลาง ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 28 ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยชอบแล้ว

พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์เสีย

Share