แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
แพทย์ได้ตรวจช่องคลอดของผู้เสียหายพบว่ามีความผิดปกติโดยกำเนิดโดยอุจจาระจะผ่านทางช่องคลอดมากกว่าจะออกไปทางทวารหนักเพราะมีช่องกว้างกว่าจากเหตุเช่นนี้อาจจะทำให้เยื่อพรหมจารีผู้เสียหายยังอยู่คงเดิมไม่พบรอยฟกช้ำของอวัยวะเพศและไม่พบอสุจิในช่องคลอดแต่ข้อเท็จจริงดังกล่าวก็ใช่ว่าจะเป็นเครื่องยืนยันเด็ดขาดว่าจะไม่มีการข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายหากผู้เสียหายเบิกความโดยละเอียดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นศาลก็ฟังว่าจำเลยกับพวกข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายได้
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง จำเลย ทั้ง สาม ขอให้ ลงโทษ ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276, 310, 318, 91, 83
จำเลย ทั้ง สาม ให้การ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว พิพากษา ว่า จำเลย ที่ 2 มี ความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคสอง , 310 วรรคแรก , 318 วรรคสาม ,83 เรียง กระทง ลงโทษ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐาน ข่มขืนกระทำ ชำเรา อัน มี ลักษณะ เป็น การ โทรมหญิง จำคุก 20 ปี ฐาน หน่วงเหนี่ยวกักขัง จำคุก 2 ปี ฐาน พราก ผู้เยาว์ จำคุก 12 ปี รวม จำคุก 24 ปียกฟ้อง จำเลย ที่ 1 ที่ 3
จำเลย ที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลย ที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “มารดา ผู้เสียหาย เบิกความ ว่า ผู้เสียหายเกิด เมื่อ วันที่ 24 มกราคม 2514 เหตุ คดี นี้ เกิด เมื่อ วันที่ 28มกราคม 2532 ซึ่ง ผู้เสียหาย มี อายุ เกิน 18 ปี การกระทำ ของ จำเลย ที่ 2จึง ไม่เป็น ความผิด ฐาน พราก ผู้เยาว์ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา318 วรรคสาม สำหรับ ใน ความผิด ฐาน ข่มขืน กระทำ ชำเรา นั้น ผู้เสียหายเบิกความ โดย ละเอียด ถึง เหตุการณ์ ที่ ท้าย เรือ เก่า ว่า จำเลย ที่ 2ข่มขืน กระทำ ชำเรา ผู้เสียหาย ก่อน แล้ว พวก ของ จำเลย ที่ 2 อีก 6 คนผลัด กัน ข่มขืน กระทำ ชำเรา ผู้เสียหาย จน ผู้เสียหาย สลบ ไป พอ รู้สึกตัว ก็เมื่อ ไป อยู่ ที่ กระท่อม และ ว่า ที่ กระท่อม ก็ ถูก จำเลย ที่ 2 กับพวกข่มขืน กระทำ ชำเรา อีก ผู้เสียหาย เป็น หญิง สาว ซึ่ง ย่อม มี ความ อับอายหาก ไม่ ถูก ข่มขืน กระทำ ชำเรา จริง ไม่ น่า จะ เบิกความ เช่นนั้นทั้ง เมื่อ ผู้เสียหาย กลับมา ถึง บ้าน บอก ต่อมา รดาทันที คดี จึง เชื่อได้ว่า จำเลย ที่ 2 ได้ ร่วม กับพวก ข่มขืน กระทำ ชำเรา ผู้เสียหายใน ลักษณะ เป็น การ โทรมหญิง จริง ที่ จำเลย ที่ 2 ฎีกา ว่า ไม่มีการ ข่มขืน กระทำ ชำเรา เพราะ จาก คำเบิกความ ของ แพทย์ ผู้ตรวจ ร่างกายของ ผู้เสียหาย กับ รายงาน การ ตรวจ ร่างกาย ของ แพทย์ ระบุ ว่าเยื่อพรหมจารี ยัง อยู่ คง เดิม ยืนยัน ไม่ได้ ว่า จะ มี การ ผ่าน การ ร่วมประเวณี มา หรือไม่ ทั้ง ไม่พบ อสุจิ ใน ช่องคลอด และ ไม่พบ ร่องรอย ฟกช้ำของ อวัยวะเพศ นั้น เห็นว่า นายแพทย์ พีระ คงทอง ผู้ตรวจ ร่างกาย ของ ผู้เสียหาย เบิกความ ว่า ช่องคลอด ของ ผู้เสียหาย มี อาการ ผิดปกติโดย กำเนิด พบ ก้อน อุจจาระ ใน ช่องคลอด ซึ่ง ตาม ปกติ จะ มี ผนัง กั้นระหว่าง ช่องคลอด กับ ทวารหนัก กรณี ของ ผู้เสียหาย ยืนยัน ไม่ได้ ว่าจะ มี การ ผ่าน การ ร่วมประเวณี เพราะ เป็น ทางผ่าน ของ อุจจาระ โดยอุจจาระ จะ ผ่าน มา ทาง ช่องคลอด มาก กว่า จะ ออก ไป ทาง ทวารหนัก เพราะมี ช่อง กว้าง กว่า ฉะนั้น การ ที่ เยื่อพรหมจารี ยัง อยู่ คง เดิม ก็ ดี ไม่พบรอย ฟกช้ำ ของ อวัยวะเพศ ก็ ดี ตลอดจน ไม่พบ อสุจิ ก็ ดี อาจจะ เป็น เพราะความผิด ปกติ ของ ช่องคลอด ของ ผู้เสียหาย ก็ ได้ นอกจาก นี้ การ ที่ปรากฏ ข้อเท็จจริง ดังกล่าว ก็ ใช่ ว่า จะ เป็น เครื่อง ยืนยัน เด็ดขาดว่า จะ ไม่มี การ ข่มขืน กระทำ ชำเรา ดังนั้น ที่ ศาลล่าง ทั้ง สอง พิพากษาว่า จำเลย ที่ 2 มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคสองนั้น ชอบแล้ว ฎีกา จำเลย ที่ 2 ฟังขึ้น บางส่วน แต่ ศาลฎีกา เห็นว่า โทษที่ ศาลล่าง ทั้ง สอง ลง แก่ จำเลย ที่ 2 นั้น หนัก เกิน ไป สมควร แก้ไขเสีย ใหม่ ให้ เหมาะสม ”
พิพากษาแก้ เป็น ว่า ให้ยก ฟ้อง จำเลย ที่ 2 ใน ความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 318 วรรคสาม และ ให้ ลงโทษ ฐาน ข่มขืนกระทำ ชำเรา จำคุก 15 ปี นอกจาก ที่ แก้ ให้ เป็น ไป ตาม คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 3