คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1672/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 2 ขับรถผ่านทางแยกด้วยความเร็วสูงกว่า 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเกินกว่าอัตราความเร็วที่กฎหมายกำหนด ทั้งๆ ที่จำเลยที่ 2 เห็นอยู่แล้วว่าจำเลยที่ 1 กำลังขับรถเลี้ยวขวาผ่านทางแยก ขณะที่เห็นรถจำเลยที่ 2 อยู่ห่างทางแยกถึง 40 เมตร ซึ่งเป็นระยะทางไกลพอสมควรที่จำเลยที่ 2 สามารถจะลดความเร็วลงได้ให้พอแก่ความปลอดภัย แต่หาได้กระทำไม่ เป็นเหตุให้ชนรถที่จำเลยที่ 1 ขับ จนมีผู้ได้รับอันตรายแก่กายสาหัส จึงฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 กระทำโดยประมาทแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองขับรถยนต์โดยประมาท กล่าวคือจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ ก.ท.ค.9956 มาตามถนนศรีอยุธยามุ่งไปสู่สี่แยกเสาวนีย์เพื่อจะเลี้ยวขวาไปสู่ถนนสวรรคโลก เมื่อขับมาถึงสี่แยกเสาวนีย์ได้ขับรถเลี้ยวขวาโดยไม่อ้อมจุดกึ่งกลางถนนตามกฎจราจร และขับผ่านทางแยกดังกล่าวมุ่งสู่ถนนสวรรคโลกโดยไม่หยุดรอให้รถ ก.ท.ห.3793 ซึ่งขับโดยจำเลยที่ 2 และเป็นรถที่จะแล่นตรงไปผ่านไปก่อน จำเลยที่ 2 ขับรถ ก.ท.ห.3793 ซึ่งบรรทุกหินและทรายด้วยความเร็วสูงกว่า 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะผ่านทางแยกโดยฝ่าฝืนกฎหมายทั้ง ๆ ที่ขณะนั้นจำเลยที่ 2 และเห็นจำเลยที่ 1 กำลังขับรถเลี้ยวขวาผ่านหน้ารถจำเลยที่ 2 ตั้งแต่รถจำเลยที่ 2 อยู่ในระยะไกลพอสมควรซึ่งจำเลยที่ 2 อาจชะลอความเร็วลงได้แต่หากระทำไม่ จนเป็นเหตุให้รถที่จำเลยที่ 2 ขับชนรถที่จำเลยที่ 1 ขับโดยแรง จนมีผู้บาดเจ็บและบาดเจ็บสาหัส ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300, 390 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 ฯลฯ

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่าจำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300, 390 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 มาตรา 29, 66 ฯลฯ ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 อันเป็นบทหนัก จำคุก 3 เดือน สำหรับจำเลยที่ 1 ให้ยกฟ้อง

จำเลยที่ 2 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 2 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์เบ็นซ์ ก.ท.ค. 9956 จากวงเวียนพญาไทไปตามถนนศรีอยุธยาบ่ายโฉมหน้าไปสี่แยกเสาวนีย์เพื่อจะเลี้ยวขวาไปสู่ถนนสวรรคโลก จำเลยที่ 2 ขับรถยนต์เชฟโรเล็ตกระบะบรรทุกเล็ก ก.ท.ห. 3793 จากสี่แยกพระบรมรูปทรงม้าไปตามถนนศรีอยุธยา บ่ายโฉมหน้าไปสี่แยกเสาวนีย์ รถจำเลยทั้งสองชนกันบริเวณสี่แยกเสาวนีย์เป็นเหตุให้ผู้ที่นั่งมาในรถที่จำเลยที่ 1 ขับได้รับอันตรายแก่กายสาหัส 3 คน และได้รับอันตรายแก่กาย 1 คน ปัญหาวินิจฉัยมีว่าการที่รถดังกล่าวชนกันเกิดจากความประมาทของจำเลยที่ 2 หรือไม่ และวินิจฉัยว่าการที่จำเลยที่ 2 ขับรถ ก.ท.ห. 3793 ผ่านทางแยกด้วยความเร็วสูงเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดทั้ง ๆ ที่จำเลยที่ 2 ได้เห็นอยู่แล้วว่า จำเลยที่ 1 กำลังขับรถแล่นเลี้ยวขวาผ่านทางแยกขณะที่เห็นรถจำเลยที่ 2 ห่างทางแยกถึง 40 เมตร ซึ่งเป็นระยะทางไกลพอสมควรที่จำเลยที่ 2 สามารถจะลดความเร็วลงได้ให้พอแก่ความปลอดภัยแต่หากกระทำไม่เป็นเหตุให้ชนรถ ก.ท.ค. 9956 ที่จำเลยที่ 1 ขับ จนทำให้มีผู้ได้รับอันตรายแก่กายสาหัส จึงฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 กระทำโดยประมาท ฯลฯ

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า ให้บังคับคดีลงโทษจำเลยที่ 2 ไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share