คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1671/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 บัญญัติถึงการกระทำเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำผิด ไม่ให้ต้องรับโทษหรือไม่ให้ถูกจับกุม เมื่อข้อเท็จจริงฟังว่าผู้ที่จำเลยได้ช่วยเหลือ ได้ถูกจับกุมในข้อหานั้นไปก่อนแล้ว การกระทำของจำเลยจึงไม่ต้องด้วยความผิดตามมาตรานี้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยนำข้อความอันเป็นเท็จไปแจ้งให้เจ้าพนักงานจดลงในเอกสารราชการ เพราะจำเลยมีเจตนาช่วยเหลือนางธงไม่ให้ถูกจับกุม ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๗, ๑๘๙, ๒๖๗
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงแล้วพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษตามมาตรา ๒๖๗ ซึ่งเป็นกระทงหนัก ให้จำคุก ๖ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๘๙ นั้นบัญญัติถึงการกระทำเพื่อช่วยเหลือมิให้ผู้กระทำผิดต้องรับโทษโดยมิให้ถูกจับกุม เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่านายธงได้ถูกจับกุมในข้อหาตั้งโรงสีใช้เครื่องจักรโดยมิได้รับอนุญาตไปแล้ว จำเลยแจ้งเรื่องย้ายโรงสีไปไว้ที่บ้านนายธงในภายหลัง การกระทำของจำเลยจึงไม่ต้องด้วยความผิดตามมาตรานี้
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา ๑๓๗, ๒๖๗ ให้ลงโทษตามมาตรา ๒๖๗ ซึ่งเป็นกระทงหลัก ให้จำคุกจำเลย ๖ เดือน

Share