คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1668/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยมีอาวุธปืนและลูกระเบิดติดตัวไปในการปล้นทรัพย์และขู่ว่าจะใช้หากเจ้าทรัพย์ขัดขืน โดยไม่ได้ยิงปืนหรือใช้วัตถุระเบิดทำให้เกิดระเบิดขึ้นแต่อย่างใด เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง ฐานปล้นโดยมีอาวุธติดตัวไปด้วยเท่านั้น ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 340 วรรคสี่ และเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่มิได้ฎีกาด้วยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 กับพวกที่ถูกยิงตายไปแล้ว ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยจำเลยกับพวกได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนและลูกระเบิดมือขู่จะยิงและขว้างเจ้าทรัพย์ให้ตายหากขัดขืน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340, 340 ตรี, 83 ฯลฯ

จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสี่ วางโทษตามมาตรา 340 ตรีประกอบด้วยมาตรา 53 ให้จำคุกคนละ 75 ปี ฯลฯ ลดโทษให้คนละหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกคนละ 50 ปี ฯลฯ

จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสี่, 340 ตรี ฯลฯ ให้ลงโทษหนักตามมาตรา 340 ตรี โดยจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ตลอดชีวิต ลดโทษให้หนึ่งในสามตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นประกอบด้วยมาตรา 53 คงจำคุกคนละ 33 ปี4 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยที่ 3 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า คดีปรากฏจากคำฟ้องและข้อนำสืบของโจทก์ว่า การปล้นครั้งนี้คนร้ายไม่ได้ยิงปืนหรือใช้วัตถุระเบิดทำให้เกิดระเบิดขึ้นแต่อย่างใด คนร้ายเพียงแต่มีอาวุธปืนและลูกระเบิดติดตัวไปและขู่ว่าจะใช้หากเจ้าทรัพย์ขัดขืนเท่านั้น ที่ศาลล่างทั้งสองปรับบทลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสี่ นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยการกระทำของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 เป็นความผิดตามมาตรา 340 วรรคสองฐานปล้นโดยมีอาวุธติดตัวไปด้วยเท่านั้น สำหรับจำเลยที่ 1 ที่ 2 แม้จะไม่ได้ฎีกาขึ้นมา แต่ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายดังกล่าวนี้เป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดีศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่ 1 ที่ 2 ด้วยได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213, 225

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 340 ตรีซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 14, 15 วางโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 คนละ 30 ปี จำเลยที่ 1ที่ 2 ที่ 3 ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2ที่ 3 ไว้คนละ 20 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share