คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 532/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บรรดาสมาคมนอกจากจะต้องมีข้อบังคับและต้องจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1275 แล้ว การแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมข้อบังคับใหม่นั้นประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1283 วรรคสอง ยังบังคับให้ส่งสำเนาข้อบังคับที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมใหม่สามฉบับไปจดทะเบียนภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ได้ลงมติ ฉะนั้น แม้ข้อบังคับที่เปลี่ยนแปลงแก้ไขใหม่นั้นจะได้รับความยินยอมจากสมาชิกสามัญเกินกว่าหนึ่งในสี่ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดและได้รับอนุมัติจากท่านศาสดาสมเด็จสังฆราชถูกต้องตามข้อบังคับของสมาคม แต่เมื่อข้อบังคับดังกล่าวยังมิได้จดทะเบียนตามที่กฎหมายบังคับไว้ จึงยังไม่สมบูรณ์ ไม่มีผลใช้บังคับแก่สมาคม
เมื่อจำเลยจัดให้มีการเลือกตั้งกรรมการฝ่าฝืนข้อบังคับของสมาคมที่ได้จดทะเบียนไว้ โจทก์ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยให้เพิกถอนการเลือกตั้งกรรมการที่ฝ่าฝืนข้อบังคับของสมาคมได้แม้จะมิได้คัดค้านไว้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นนิติบุคคล มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่หลักธรรมคำสั่งสอนของศาสดาศรีสัตย์ คุรุรามซิงห์ มีนายยัสปาล ซิงห์ คุรุวาฬ เป็นนายกและผู้จัดการสมาคม เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2517 จำเลยจัดให้มีการเลือกคณะกรรมการชุดใหม่ของสมาคม โดยวิธีจับสลากจากใบสมัครของสมาชิกตามอำเภอใจ เป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของสมาคมตามเอกสารท้ายฟ้อง เป็นผลเสียหายแก่สมาคมและสมาชิกสมาคม โจทก์กับพวกซึ่งเป็นสมาชิกได้คัดค้านและขอให้จำเลยเลือกตั้งคณะกรรมการเสียใหม่ให้ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับของสมาคม จำเลยไม่ยอมปฏิบัติ ขอให้ศาลเพิกถอนมติของสมาคมในการเลือกตั้งคณะกรรมการดังกล่าว และสั่งให้จำเลยจัดการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ประจำปี 2517 ตามระเบียบข้อบังคับของสมาคมและตามกฎหมาย

จำเลยให้การว่า ระเบียบข้อบังคับของสมาคมท้ายฟ้องได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงบางข้อ โดยได้รับความยินยอมจากสมาชิกสามัญไม่น้อยกว่าหนึ่งในสี่ของสมาชิกทั้งหมด และได้รับอนุมัติจากศาสดาสมเด็จสังฆราชศรีสัตย์คุรุ ยักยิต ซิงห์ ในการประชุมเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2517 สมาชิกสามัญเกินกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกสามัญทั้งหมดเห็นควรให้เลือกกรรมการ โดยวิธีจับสลากแทนการได้รับแต่งตั้งจากสมเด็จสังฆราช จำเลยจึงได้จัดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการตามความประสงค์ของสมาชิกส่วนใหญ่ ไม่เป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของสมาคม โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนการเลือกตั้งคณะกรรมการสมาคมจำเลยเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2517 คำขอของโจทก์นอกจากนี้ให้ยก

โจทก์ จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า สมาคมได้จดทะเบียนข้อบังคับในข้อ 1 ว่า “การจัดดำเนินงานของสมาคมต้องมีคณะกรรมการคณะหนึ่งซึ่งประกอบด้วยกรรมการ 15 นายจากสมาชิกสามัญ” และข้อ 2 ว่า “กรรมการในจำนวนนี้ 13นายต้องได้รับการเลือกตั้งโดยวิธีใช้บัตรลงคะแนนจากการประชุมเพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน ส่วนกรรมการอีก 2 นายที่เหลือนั้นต้องได้รับแต่งตั้งโดยคณะกรรมการ 13 นายที่ได้รับเลือกตั้งแล้ว” ต่อมานายยัสปาล ซิงห์นายกสมาคมจำเลยได้ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงข้อบังคับดังกล่าวหลายข้อต่อผู้บังคับการตำรวจสันติบาล โดยเฉพาะในข้อ 2 เปลี่ยนเป็นว่า”สมเด็จพระสังฆราชศรีสัตย์ คุรุ ยักยิต ซิงห์ จะทรงแต่งตั้งคณะกรรมการจำนวน13 ท่านทุกปีด้วยการพิจารณาแต่งตั้งเลือกจากใบสมัครที่สมาชิกยื่นส่งไปตามเวลากำหนด แล้วคณะกรรมการจำนวน 13 ท่านนี้จะเป็นผู้แต่งตั้งคณะกรรมการเพิ่มเติมอีก 2 ท่าน” แต่เนื่องจากมีสมาชิกที่ไม่เห็นด้วยได้ยื่นคำคัดค้านขอให้ยับยั้งการจดทะเบียนและได้ฟ้องเป็นคดีอยู่ที่ศาลแพ่ง เจ้าพนักงานจึงยังไม่รับจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงให้แล้ววินิจฉัยว่า บรรดาสมาคมนอกจากจะต้องมีข้อบังคับและต้องจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1275และการแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมข้อบังคับใหม่นั้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1283 วรรคสอง ยังบัญญัติบังคับให้ส่งสำเนาข้อบังคับที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมใหม่สามฉบับไปจดทะเบียนภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ได้ลงมติ ฉะนั้น แม้ข้อบังคับที่เปลี่ยนแปลงแก้ไขใหม่นั้นจะได้รับความยินยอมจากสมาชิกสามัญเกินกว่าหนึ่งในสี่ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดและได้รับอนุมัติจากท่านศาสดาสมเด็จสังฆราชศรีสัตย์ คุรุ ยักยิต ซิงห์ถูกต้องตามข้อบังคับของสมาคมจำเลยแล้วก็ตาม เมื่อข้อบังคับดังกล่าวยังมิได้จดทะเบียนตามที่กฎหมายบังคับไว้ จึงยังไม่สมบูรณ์ ไม่มีผลใช้บังคับแก่สมาคมจำเลย และเมื่อจำเลยจัดให้มีการเลือกตั้งกรรมการฝ่าฝืนข้อบังคับของสมาคมที่ได้จดทะเบียนไว้ โจทก์ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมจำเลยย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยให้เพิกถอนการเลือกตั้งกรรมการที่ฝ่าฝืนข้อบังคับของสมาคมจำเลยดังกล่าวได้แม้โจทก์จะมิได้คัดค้านไว้ก็หาทำให้โจทก์เสียสิทธิในการฟ้องร้องไม่

พิพากษายืน

Share