แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อตกลงที่ว่าผู้เช่าจะไม่ยอมให้ผู้อื่นมาอาศัยรวมอยู่ด้วยเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษรนั้นหาใช่กรณีที่ผู้เช่าต้องมีหน้าที่หรือรับภาระใด ๆ ซึ่งตามกฎหมายผู้เช่า ไม่จำต้องมีหน้าที่หรือรับภาระนั้น ๆ ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ. 2504 มาตรา 12 (2) ไม่ข้อตกลงดังกล่าวไม่ขัดแย้งกับกฎหมาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ได้ทำสัญญาเช่าอาคารโจทก์เลขที่ ๑๐๙/๓ต่อมาจำเลยที่ ๑ ผิดสัญญาเช่าโดยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าให้โจทก์ และจำเลยที่ ๑ มิได้เช่าอยู่เอง แต่ยอมให้จำเลยที่ ๒ กับบริวารมาอาศัยอยู่โดยมิได้รับอนุญาตจากโจทก์เป็นลายลักษณ์อักษร จำเลยที่ ๒ กับบริวารเข้ามาอยู่อาคารดังกล่าวโดยไม่มีสิทธิ ขอให้ศาลบังคับจำเลยที่ ๑ชำระค่าเช่าที่ค้าง ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหาย ให้ขับไล่จำเลยทั้งสองกับบริวาร
จำเลยทั้งสองให้การว่า ความในสัญญาเช่าข้อ ๓ และข้อ ๕เป็นโมฆะ ขัดและฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมาย
ก่อนสืบพยาน โจทก์จำเลยแถลงร่วมกันขอท้ากันเป็นประเด็นข้อแพ้ชนะเพียงข้อเดียวว่า ข้อความในข้อ ๓ แห่งสัญญาเช่าดังกล่าวเป็นโมฆะหรือไม่ ขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดโดยคู่ความไม่ต้องนำสืบหากเป็นโมฆะ จำเลยทั้งสองชนะคดี หากไม่เป็นโมฆะ จำเลยทั้งสองแพ้คดี
ศาลชั้นต้นงดสืบพยานและมีคำพิพากษาว่า ข้อความในข้อ ๓แห่งสัญญาเช่าอาคารพิพาทไม่ขัดต่อกฎหมาย พิพากษาให้โจทก์ชนะตามฟ้อง
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ฎีกา
สัญญาเช่าอาคารพิพาทฉบับที่ ๓/๒๕๐๙ ข้อ ๓ มีความว่า “ผู้เช่าจะเข้าอยู่อาศัยเองและจะมีคนอาศัยอยู่ในครอบครัวตามจำนวนที่ระบุชื่อไว้ในคำร้องขอเช่า จะไม่ยอมให้ผู้อื่นมาอาศัยรวมกันอยู่ด้วย เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว ทั้งนี้ไม่กินความถึงบุตรของผู้เช่าที่เกิดใหม่” ศาลฎีกาเห็นว่าข้อตกลงที่ว่าผู้เช่าจะไม่ยอมให้ผู้อื่นมาอาศัยรวมอยู่ด้วย เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษรนั้น หาใช่กรณีที่ผู้เช่าต้องมีหน้าที่หรือรับภาระใด ๆซึ่งตามกฎหมาย ผู้เช่าไม่จำต้องมีหน้าที่หรือรับภาระนั้น ๆ ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ. ๒๕๐๔ มาตรา ๑๒(๒)แต่ประการใดไม่ ข้อตกลงดังกล่าวไม่ขัดแย้งกับกฎหมาย
พิพากษายืน