คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 411/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ถ้อยคำของผู้ตายที่ได้ร้องบอกกล่าวขึ้นทันทีทันใดว่า ผู้ใดฆ่าตนโดยไม่มีเวลาตรึกตรองนั้น ย่อมรับฟังเป็นพยานได้ และถ้อยคำของผู้ตายที่บอกกล่าวว่าผู้ใดฆ่าตน ในกรณีที่ผู้ตายรู้แล้วว่าตนเองจะตายโดยไม่มีหวังรอดเช่นนี้ ย่อมรับฟังเป็นพยานประกอบได้เช่นเดียวกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้อาวุธปืนยิงนายบุญ ปองเหมือน ตาย ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง จำคุกจำเลย 16 ปี

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อเสียงปืนที่ประตูรั้วบ้านดังขึ้น 1 นัด พยานโจทก์ได้ยินผู้ตายร้องขึ้นทันทีว่า “หนานรัตน์ยิงข้าเน้อ” เป็นถ้อยคำของผู้ตายได้ร้องบอกกล่าวขึ้นทันทีทันใด โดยไม่มีเวลาตรึกตรอง ย่อมรับฟังเป็นพยานได้ เมื่อพยานโจทก์ไปถึงผู้ตาย ผู้ตายยังบอกพยานโจทก์อีกว่าหนานรัตน์ลูกนายเรือนยิงก่อนผู้ตายขาดใจตายเพียง 5 นาที ถ้อยคำของผู้ตายที่บอกกล่าวในกรณีที่ผู้ตายรู้แล้วว่าตนเองจะตายโดยไม่มีหวังรอดเช่นนี้ ย่อมรับฟังเป็นพยานประกอบได้

พิพากษายืน

Share