แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ขณะที่จำเลยกระทำผิดในคดีนี้และคดีก่อน จำเลยเป็นพนักงานของธนาคาร ก. ซึ่งเป็นผู้เสียหายอยู่ด้วยในทุกคดีโดยถือโอกาสที่เป็นพนักงานกระทำผิดเกี่ยวกับเอกสารและทรัพย์โดยมีเจตนาเพื่อเบียดบังเอาเงินของลูกค้าผู้ฝากเงินไปเป็นประโยชน์ส่วนตนคดีนี้และคดีก่อนจึงมีความเกี่ยวพันกันจนอาจฟ้องเป็นคดีเดียวกันได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 160 วรรคแรก การนับโทษต่อจึงต้องอยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ด้วย และเมื่อคดีนี้ความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 และ 268 วรรคสอง เป็นกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกเกิน 3 ปีแต่ไม่เกิน 10 ปี การนับโทษต้องอยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(2) เมื่อรวมโทษจำคุกทุกกระทงแล้วจะเกิน 20 ปี ไม่ได้แต่คดีก่อนเมื่อรวมโทษจำคุกทุกคดีและทุกกระทงโดยไม่รวมโทษจำคุกในคดีนี้ด้วยปรากฏว่าจำเลยถูกลงโทษจำคุก 23 ปี 6 เดือน ซึ่งเกิน 20 ปีแล้วจึงไม่อาจนับโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกในคดีก่อนได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 264, 265,268, 334, 335, 352 ให้จำเลยคืนและใช้เงิน 140,000 บาท แก่ผู้เสียหายที่ 1 ใช้เงิน15 บาท แก่ผู้เสียหายที่ 2 และนับโทษจำเลยคดีนี้ต่อจากโทษจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ 515/2543 หมายเลขแดงที่ 525/2543 หมายเลขแดงที่ 1104/2543 และหมายเลขแดงที่ 1703/2543 ของศาลชั้นต้น
จำเลยให้การรับสารภาพ และรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265,268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 265, 335(11), 352 วรรคแรก การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานลักทรัพย์นายจ้างจำคุก 1 ปี ฐานยักยอก จำคุก1 ปี ฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม ให้ลงโทษฐานใช้เอกสารปลอมตามมาตรา 268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 265 ตามมาตรา 268 วรรคสอง จำคุกกระทงละ2 ปี รวม 8 กระทง รวมจำคุก 18 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 9 ปี ริบของกลาง ให้จำเลยคืนหรือใช้เงินจำนวน 140,000 บาท แก่ผู้เสียหายที่ 1 ใช้เงินจำนวน 15 บาทแก่ผู้เสียหายที่ 2 เนื่องจากคดีนี้และคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อนั้น ผู้เสียหายเป็นบุคคลคนละคนกัน พยานหลักฐานในคดีนี้เป็นคนละชุดกันและวันเวลาเกิดเหตุต่างกัน กรณีไม่ตกอยู่ในบังคับมาตรา 91(2)แห่งประมวลกฎหมายอาญา จึงให้นับโทษของจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษของจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ 515/2543 หมายเลขแดงที่ 525/2543 หมายเลขแดงที่ 1104/2543และหมายเลขแดงที่ 1703/2543 ของศาลชั้นต้น
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้ในเบื้องต้นว่า จำเลยในคดีนี้เป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ 515/2543 หมายเลขแดงที่ 525/2543 หมายเลขแดงที่ 1104/2543 และหมายเลขแดงที่ 1703/2543 ของศาลชั้นต้น โดยศาลชั้นต้นเรียงกระทงลงโทษจำเลยในแต่ละคดีแล้วคงจำคุก 2 ปี 6 เดือน, 9 ปี, 10 ปีและ 2 ปี ตามลำดับ รวมโทษทุกกระทงแล้วจำเลยถูกลงโทษจำคุก 23 ปี 6 เดือน ส่วนคดีนี้ศาลชั้นต้นเรียงกระทงลงโทษจำเลยแล้วคงจำคุก 9 ปี และให้นับโทษในคดีนี้ต่อจากโทษใน 4 คดีดังกล่าวข้างต้น คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า ที่ศาลล่างทั้งสองให้นับโทษจำเลยในคดีนี้ต่อจากคดีหมายเลขแดงที่ 515/2543 หมายเลขแดงที่ 525/2543 หมายเลขแดงที่ 1104/2543 และหมายเลขแดงที่ 1703/2543 ของศาลชั้นต้นนั้นชอบหรือไม่ เห็นว่า ขณะที่จำเลยกระทำผิดในคดีนี้และคดีดังกล่าวทั้งสี่คดีนั้น จำเลยเป็นพนักงานของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนเทพกระษัตรีย์ ซึ่งเป็นผู้เสียหายอยู่ด้วยในทุกคดีโดยถือโอกาสที่เป็นพนักงานกระทำผิดเกี่ยวกับเอกสารและทรัพย์โดยมีเจตนาเพื่อเบียดบังเอาเงินของลูกค้าผู้ฝากเงินไปเป็นประโยชน์ส่วนตน คดีนี้และคดีดังกล่าวทั้งสี่คดีมีความเกี่ยวพันกันจนอาจฟ้องเป็นคดีเดียวกันได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 160 วรรคแรก การนับโทษต่อจึงต้องอยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ด้วย และปรากฏว่าคดีนี้ความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 265 และ 268 วรรคสอง เป็นกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกเกิน 3 ปี แต่ไม่เกิน 10 ปี การนับโทษต้องอยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(2) กล่าวคือ เมื่อรวมโทษจำคุกทุกกระทงแล้วจะเกิน 20 ปี ไม่ได้ แต่คดีดังกล่าวทั้งสี่คดีเมื่อรวมโทษจำคุกทุกคดีและทุกกระทงโดยไม่รวมโทษจำคุกในคดีนี้ด้วย ปรากฏว่าจำเลยถูกลงโทษจำคุกถึง 23 ปี 6 เดือน ซึ่งเกิน 20 ปีแล้ว จึงไม่อาจนับโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกในคดีดังกล่าวทั้งสี่คดีได้ ที่ศาลล่างทั้งสองให้นับโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำเลยในคดีดังกล่าวทั้งสี่คดี จึงไม่ชอบ ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำขอของโจทก์ที่ให้นับโทษจำคุกคดีนี้ต่อจากคดีหมายเลขแดงที่ 515/2543 หมายเลขแดงที่ 525/2543 หมายเลขแดงที่ 1104/2543และหมายเลขแดงที่ 1703/2543 ของศาลชั้นต้น นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8