คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1652/2521

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ที่ดินมรดก จำเลยทำสัญญาเช่าจากโจทก์ จำเลยเถียงอำนาจของโจทก์ว่าโจทก์ฟ้องขับไล่ในฐานะส่วนตัว ไม่ใช่ฐานะผู้จัดการมรดก เถียงไม่ได้

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยและบริวารรื้อสิ่งปลูกสร้างออกจากที่ดินที่เช่า ยกฟ้องแย้ง จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีนี้จะอุทธรณ์ได้แต่เฉพาะในปัญหาข้อกฎหมาย ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 3058 มีชื่อนายสายใย สุวรรณโชติ สามีโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ จำเลยได้ทำสัญญาเช่าที่พิพาทอันเป็นส่วนหนึ่งของโฉนดแปลงนี้เป็นเนื้อที่ 48 ตารางวากับนายสายใย ตามสัญญาเช่าลงวันที่ 8 กันยายน 2511 นายสายใย ถึงแก่ความตายเมื่อ พ.ศ. 2503 โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลและจำเลยได้ทำสัญญาเช่าที่ดินกับโจทก์ใหม่อีกเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2514มีกำหนดเวลา 2 ปีนับแต่วันทำสัญญา ครบกำหนดสัญญาเช่าแล้ว โจทก์บอกให้จำเลยออกจากที่พิพาท จำเลยไม่ยอมออก

ที่จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า ที่พิพาทไม่ใช่ของโจทก์ โจทก์ฟ้องคดีนี้ในฐานะส่วนตัว จึงไม่มีอำนาจฟ้อง แม้คู่ความจะสละประเด็นข้อนี้ในศาลชั้นต้น แต่เรื่องอำนาจฟ้องเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้นั้น เห็นว่า แม้ที่พิพาทจะเป็นของกองมรดกนายสายใย แต่จำเลยตกลงทำสัญญาเช่าที่พิพาทจากโจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิและหน้าที่ในฐานะผู้ให้เช่าตามสัญญาเช่า และมีอำนาจฟ้องขับไล่กับเรียกค่าเสียหายจากจำเลยซึ่งไม่ยอมออกจากที่พิพาทภายหลังที่สัญญาเช่าระงับลงแล้วได้ จำเลยไม่มีสิทธิที่จะโต้แย้งอำนาจของโจทก์ที่ตนยินยอมทำสัญญาเช่าด้วยนั้นได้ ฉะนั้นโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลย”

พิพากษายืน

Share