คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2922/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ก่อนฟ้องบังคับจำนอง โจทก์ผู้รับจำนองมีหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองไปถึงจำเลยผู้จำนองแล้ว เมื่อจำเลยได้รับหนังสือทวงถามและบอกกล่าวบังคับจำนองได้ขอให้โจทก์ส่งหลักฐานการเป็นหนี้ไปให้จำเลย โจทก์จะส่งหลักฐานดังกล่าวให้จำเลยหรือไม่ย่อมเป็นสิทธิของโจทก์ การที่จำเลยไม่ชำระหนี้ภายในกำหนดเวลาตามคำบอกกล่าวจึงถือได้ว่าจำเลยละเลยเสียไม่ปฏิบัติตามคำบอกกล่าว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 728 แล้วโจทก์มีอำนาจฟ้องบังคับจำนองได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีกับโจทก์รวม ๓ ครั้ง โดยจำนองที่ดินเป็นประกัน จำเลยทั้งสองผิดนัด โจทก์ทวงถามและบอกกล่าวบังคับจำนองแล้ว จำเลยทั้งสองเพิกเฉย ขอให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญาหากไม่ชำระขอบังคับจำนอง
จำเลยทั้งสองให้การว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง จำเลยทั้งสองทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีกับโจทก์เพียง ๒ ครั้ง และชำระหนี้ครบแล้ว จำเลยทั้งสองไม่ได้ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีครั้งสุดท้าย ลายมือชื่อของจำเลยที่ ๑ ในสัญญาดังกล่าวเป็นลายมือชื่อปลอม
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน ๓๒๔,๗๙๗.๓๗ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๒ ต่อปี ของต้นเงิน๓๐๔,๓๓๕.๙๙ บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ หากไม่ชำระให้บังคับทรัพย์จำนอง
โจทก์และจำเลยที่ ๒ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน ๔๕๗,๗๖๓.๐๔ บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ ๑๒ ต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๒๓ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาตามฎีกาข้อแรกของจำเลยทั้งสองว่าเมื่อได้รับคำบอกกล่าวแล้วจำเลยทั้งสองละเลยไม่ปฏิบัติตามคำบอกกล่าวหรือไม่ ได้ความจากจำเลยทั้งสองว่าเมื่อได้รับหนังสือบอกกล่าวของโจทก์จำเลยที่ ๒ มีหนังสือขอให้โจทก์ส่งหลักฐานไปให้ดู แต่โจทก์ไม่ยอมส่งหลักฐานและไม่ตอบหนังสือของจำเลยที่ ๒ และได้ความจากคำของนายธนชาติ เอื้อวุฒิเกริก พยานโจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการธนาคารโจทก์สาขาปราจีนบุรีว่าโจทก์ได้รับหนังสือของจำเลยที่ ๒แต่ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ส่งหลักฐานหรือตอบจดหมายของจำเลยที่ ๒ อย่างไรก็ตามได้ความจากพยานหลักฐานโจทก์ว่าธนาคารโจทก์ได้ส่งคู่ฉบับบัญชีเงินฝากกระแสรายวันซึ่งแสดงรายการยอดเงินที่จำเลยเป็นหนี้ ให้จำเลยตรวจสอบรายการต่าง ๆ ว่าถูกต้องตามความจริงหรือไม่ จำเลยที่ ๒ รับว่าได้รับบัญชีแจ้งยอดเงินดังกล่าวของโจทก์จริง และไม่เคยทักท้วงว่าบัญชีกระแสรายวันไม่ถูกต้องอย่างไร ฟังได้ว่าโจทก์ได้ส่งหลักฐานรายละเอียดยอดหนี้ให้จำเลยทราบตลอดมา การที่จำเลยจะขอให้โจทก์ส่งหลักฐานดังกล่าวซ้ำอีกย่อมเป็นสิทธิของโจทก์ที่จะส่งให้หรือไม่ เมื่อจำเลยทั้งสองไม่ชำระหนี้ภายในกำหนดเวลาตามคำบอกกล่าวถือว่าจำเลยทั้งสองละเลยเสียไม่ปฏิบัติตามคำบอกกล่าวแล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องบังคับจำนองได้
และวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้งสองยังไม่ได้ชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี ๒ ฉบับแรก
พิพากษายืน.

Share