คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1648/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289, 288, 83 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 288 จึงมีผลเท่ากับศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ในข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) โดยอาศัยข้อเท็จจริง โจทก์จึงฎีกาข้อหานี้ในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกอีก ๕ คน ซึ่งหลบหนีร่วมกันมีอาวุธปืนลูกซอง ๑ กระบอก ไม่มีหมายเลขทะเบียนของเจ้าพนักงานและกระสุนปืนหลายนัดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนดังกล่าวติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และใช้อาวุธปืนยิงนายเต็น โคตะคำ และนายก้าน ขันดี โดยเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนเป็นเหตุให้บุคคลทั้งสองถึงแก่ความตายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๒๘๙, ๘๓ และพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา ๗, ๘ ทวิ, ๗๒, ๗๒ ทวิ ริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ของกลางริบ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๒๘๘ จำคุกตลอดชีวิต ของกลางริบ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙ (๔) นั้น ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่าพยานโจทก์ยังเป็นที่น่าสงสัยตามสมควรว่าจำเลยได้กระทำผิดหรือไม่ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยร่วมกับพวกฆ่าผู้ตายจริง แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยกับพวกคบคิดตระเตรียมวางแผนการฆ่ามาก่อน พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๒๘๘ จึงมีผลเท่ากับศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง-โจทก์ในข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙ (๔) โดยอาศัยข้อเท็จจริง โจทก์จึงฎีกาข้อหานี้ในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๒๐ ที่โจทก์ฎีกาว่า ตามพฤติการณ์แห่งคดี แสดงให้เห็นว่าจำเลยกับพวกคบคิดตระเตรียมวางแผนฆ่าผู้ตายมาก่อน เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าวศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษายกฎีกาโจทก์

Share