แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ยื่นฎีกาในข้อเท็จจริงศาลฎีกาวินิจฉัยให้แต่ฉะเพาะในข้อเท็จจริงเท่านั้น ส่วนข้อกฎหมายซึ่งศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเป็นผลดีแก่จำเลยศาลฎีกาไม่วินิจฉัยถึง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทั้ง ๒ สมคบกันลักกระบือของ ป. เจ้าทรัพย์ไป ๓ ตัวขอให้ลงโทษ
ศาลชั้นต้นฟังการพิจารณาแล้วเชื่อฟังพะยานโจทก์ว่าจำเลยทั้ง ๒ ทำผิดจริงดังข้อหาโจทก์ พิพากษาให้ลงโทษจำเลยคนละ๑ ปี ตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๙๔ ตอนท้าย
นายหลีจำเลยคนเดียวอุทรณ์
ศาลอุทธรณ์ไม่เชื่อพะยานโจทก์ว่าจำเลยได้กระทำผิดดังโจทก์หา และวินิจฉัยว่าแม้นายวาทจำเลยจะมิได้อุทรณ์ขั้นมาด้วยก็ดี ศาลก์มีอำนาจพิพากษาให้นายวาทจำเลยพ้นโทษไปได้ ตามประมวลวิธีพิจารณาอาญามาตรา ๒๑๓ จึงพิพากษายกฟ้องปล่อยจำเลยทั้ง ๒ คนไป
โจทก์ฎีกาคัดค้านในข้อเท็จจริงขอให้ลงโทษจำเลยทั้ง ๒
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงแล้วยังว่ากระบือของเจ้าทรัพย์ถูกลักไปจริง แต่หลักญานพะยานโจทก์มีพิรุธไม่น่าเชื่อว่าจำเลยจะกระทำผิดจริง จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์