แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พฤติการณ์ที่เป็นการออกหมายขังระวางพิจารณา
ในคดีที่จำเลยต้องคำพิพากษาให้ปรับแต่คดียังอยู่ในระหว่างอุทธรณ์ศาลออกหมายให้จำขังในระหว่างอุทธรณ์ เมื่อโจทก์ร้องขออย่าให้จำขังจำเลยโดยจะจัดการยึดทรัพย์แทนเงินค่าปรับดังนี้ ศาลมีอำนาจที่จะออกหมายปล่อยจำเลยได้
ย่อยาว
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ปรับจำเลยตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นในเป็นเงิน 80 บาท ถ้าไม่เสียค่าปรับให้จัดการตามมาตรา 18 แลในวันเดียวกับที่พิพากษาคดีนี้ ศาลได้ออกหมายแจ้งโทษระหว่างอุทธรณ์ให้จำขังจำเลยไว้รอคำพิพากษาศาลสูงโดยจำเลยไม่มีประกัน ต่อจากวันอ่านคำพิพากษาได้ 8 วัน โจทก์ก็ยื่นคำร้องขอให้ปล่อยจำเลยไปอย่าให้ต้องจำแทนค่าปรับ เพราะโจทก์จะจัดการยึดทรัพย์จำเลยแทนเงินค่าปรับ ศาลจึงสั่งให้ปล่อยแลออกหมายปล่อยจำเลย
จำเลยอุทธรณ์ว่า เมื่อได้บังคับคดีโดยออกหมายคำสั่งให้จำคุกแทนเงินค่าปรับแล้วจะเปลี่ยนเป็นยึดทรัพย์ไม่ได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกอุทธรณ์จำเลย
ศาลฎีกาเห็นว่า เป็นเรื่องศาลออกหมายจำขังในระหว่างอุทธรณ์ ศาลยังมิได้สั่งให้จำคุกหรือออกหมายให้จำคุกแทนเงินค่าปรับประการใดเลยเมื่อโจทก์ร้องขออย่าให้จำขังจำเลยระหว่างคดี ศาลย่อมทรงไว้ซึ่งอำนาจที่จะปล่อยจำเลยในระหว่างคดีได้ เมื่อคำพิพากษาถึงที่สุดเมื่อใด โจทก์จึงจะจัดการตามมาตรา 18 ซึ่งโจทก์ชอบที่จะทำได้ คือร้องขอให้ยึดทรัพย์หรือให้จำคุกแทนเงินค่าปรับก็ได้ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์