คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1646/2546

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นตัวแทนของผู้ขนส่งและได้ทำสัญญารับขนส่งสินค้าให้แก่โจทก์แทนผู้ขนส่งซึ่งเป็นตัวการที่อยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในต่างประเทศ มิใช่เป็นเพียงนายหน้าในการรับจองระวางเรือจำเลยจึงต้องรับผิดตามสัญญานั้นแต่ลำพังเองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 824 แม้จำเลยจะไม่ใช่ผู้ขนส่งหรือผู้ขนส่งอื่นเมื่อผู้ขนส่งผิดสัญญาไม่ส่งสินค้าให้ถึงเมืองปลายทางแต่ปล่อยให้สินค้าไปตกค้างระหว่างทางเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายต้องเสียค่าใช้จ่ายอันเนื่องมาจากการที่สินค้าตกค้างที่เมืองท่าดูไบและค่าระวางการขนส่งจากเมืองท่าดูไบไปยังเมืองท่าปลายทางตูนิส จำเลยจึงต้องรับผิดชำระเงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
ข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งตามพระราชบัญญัติการรับขนของทางทะเลพ.ศ. 2535 มาตรา 58 ใช้บังคับเฉพาะกรณีที่ของซึ่งผู้ขนส่งได้รับมอบหมายสูญหายหรือเสียหายเท่านั้น แต่กรณีที่ผู้ขนส่งผิดสัญญาไม่ส่งของไปยังเมืองท่าปลายทางตามสัญญามิใช่เป็นกรณีของสูญหายหรือเสียหาย จึงไม่อาจนำข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งมาใช้บังคับได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นนิติบุคคลประเภท บริษัทจำกัดประกอบกิจการตัวแทนนายหน้า และขนส่งระหว่างประเทศ บริษัทนิวส์ ชิปปิ้งส์ เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นนิติบุคคลต่างประเทศและมีภูมิลำเนาอยู่ต่างประเทศ ประกอบกิจการรับขนของทางทะเล ได้มอบหมายให้จำเลยเป็นตัวแทนผู้ทำสัญญารับขนของทางทะเลแทนบริษัทนิวส์ ชิปปิ้งส์เซอร์วิสเซส จำกัด เมื่อประมาณต้นเดือนกันยายน 2542 โจทก์ว่าจ้างให้จำเลยขนส่งสินค้ารถยนต์สามล้อ จำนวน 5 คัน มูลค่า 1,018,923.52 บาท จากเมืองท่าต้นทางกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ไปยังเมืองท่าปลายทางตูนิส ประเทศตูนีเซีย จำเลยออกใบตราส่งของบริษัทนิวส์ ชิปปิ้งส์ เซอร์วิสเซส จำกัด เลขที่เอ็นดีอดับบลิวเอสบีเคเค9909009 ให้แก่โจทก์ โดยระบุชื่อจำเลยไว้ในฐานะตัวแทนของบริษัทนิวส์ ชิปปิ้งส์เซอร์วิสเซส จำกัด โจทก์ชำระเงินค่าระวางและอุปกรณ์ค่าระวางขนส่ง จำนวน301,274.77 บาท ให้แก่จำเลยไปครบถ้วนแล้ว เมื่อจำเลยได้รับมอบสินค้าไปจากโจทก์แล้ว จำเลยว่าจ้างให้ผู้ขนส่งอื่นขนส่งสินค้าไปอีกทอดหนึ่ง สินค้าได้ถูกขนส่งไปถึงเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ จากนั้นไม่มีการขนส่งสินค้าไปถึงเมืองท่าปลายทางตามที่ตกลงกันไว้ โจทก์มอบให้ทนายความมีหนังสือบอกเลิกสัญญากับจำเลยและบริษัทนิวส์ ชิปปิ้งส์ เซอร์วิสเซส จำกัด และให้ชดใช้ค่าเสียหายของสินค้าค่าระวางและค่าใช้จ่ายอันเกี่ยวกับการขนส่งสินค้า ต่อมาเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2543 โจทก์และจำเลยได้ทำบันทึกข้อตกลงให้จำเลยจัดการดำเนินการขนส่งของจากเมืองดูไบประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไปยังเมืองตูนิส ประเทศตูนิเซีย และให้โจทก์ออกเงินทดรองค่าใช้จ่าย ค่าระวางและอุปกรณ์แห่งค่าระวางให้แก่จำเลยไปก่อน จำนวน 477,470 บาทโดยสงวนสิทธิที่จะเรียกร้องให้ผู้ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าใช้จ่ายที่โจทก์ต้องออกไป โจทก์ได้มอบเงินจำนวน 477,470 บาท ให้แก่จำเลยและจำเลยได้ดำเนินการขนส่งสินค้าจากเมืองดูไบไปยังเมืองตูนิสและส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้รับตราส่งเรียบร้อยแล้ว โจทก์ได้ทวงถามจำเลยให้ชดใช้ค่าเสียหายที่โจทก์ได้ทดรองจ่ายออกไปคืนแก่โจทก์ แต่จำเลยไม่ชำระหนี้ ขอให้บังคับจำเลยชดใช้ความเสียหายตามบันทึกข้อตกลงแก่โจทก์ เป็นเงิน477,470 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่โจทก์ออกเงินค่าใช้จ่ายดังกล่าวเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2543 จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น ดอกเบี้ยถึงวันฟ้องเป็นเงิน17,071.18 บาท รวมเป็นค่าเสียหายจำนวน 494,541.18 บาท

จำเลยให้การว่า จำเลยประกอบกิจการเป็นเพียงตัวแทนเรือ หรือเป็นนายหน้าในการรับจองระวางเรือ โดยจำเลยได้รับการแต่งตั้งจากบริษัทโอเชี่ยนนัส ชิปปิ้ง เอเจนซี่พีทีอี จำกัด ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์เป็นตัวแทนของผู้ขนส่งคือบริษัทนิวส์ ชิปปิ้งส์ เซอร์วิสเซส จำกัด ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่เมืองดูไบ ให้เป็นนายหน้าในการรับจองระวางเรือของบริษัทนิวส์ ชิปปิ้งส์ เซอร์วิสเซส จำกัด ซึ่งเป็นผู้ขนส่ง โดยได้รับค่าตอบแทน 70 เปอร์เซ็นต์ ของ 5 เปอร์เซ็นต์ ของเงินค่านายหน้าที่บริษัทโอเชี่ยนนัสชิปปิ้ง เอเจนซี่ พีทีอี จำกัด ได้รับจากเงินค่าระหว่างในการเป็นตัวแทน จำเลยได้รับมอบหมายจากผู้ขนส่งให้ลงลายมือชื่อในใบตราส่งแทนนายเรือของลีลาภูมิ จำเลยไม่ได้ร่วมในการขนส่งช่วงหนึ่งช่วงใด จำเลยได้โอนเงินค่าระวางที่โจทก์ได้มอบให้แก่จำเลยให้แก่บริษัทโอเชี่ยนนัส ชิปปิ้ง เอเจนซีส์ พีทีอี จำกัด แล้ว จำเลยจึงไม่ใช่ผู้ขนส่งหรือผู้ขนส่งอื่นหรือเป็นผู้ทำสัญญารับขนของแทนบริษัทนิวส์ ชิปปิ้งส์ เซอร์วิสเซส จำกัด ตัวการซึ่งอยู่ต่างประเทศ การที่จำเลยได้ดำเนินการให้มีการจัดส่งสินค้าและส่งมอบให้ผู้รับตราส่งดังกล่าวตามบันทึกข้อตกลงนั้นเป็นการช่วยเหลือโจทก์ ไม่ใช่เป็นบันทึกการยอมรับผิดหรือเป็นบันทึกชดใช้ค่าเสียหายของจำเลย โจทก์ได้บอกเลิกสัญญาขนส่งสินค้ากับจำเลยและบริษัทนิวส์ ชิปปิ้งส์ เซอร์วิสเซส จำกัด แล้ว และสินค้าได้ส่งถึงผู้รับตราส่งเรียบร้อยแล้วหลังจากโจทก์บอกเลิกสัญญาหากจำเลยต้องรับผิดก็ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทต่อหนึ่งหน่วยการขนส่งหรือกิโลกรัมละสามสิบบาท สินค้ารถยนต์สามล้อ จำนวน 5 คันเท่ากับ 5 หน่วยการขนส่ง คิดเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท ค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องมาสูงเกินไปและไม่ถูกต้อง ขอให้ยกฟ้อง

ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 477,470 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 11เมษายน 2543 จนกว่าจะชำระเสร็จ ดอกเบี้ยถึงวันฟ้องต้องไม่เกิน 17,071.18 บาท

จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า”พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นรับฟังได้ว่า โจทก์ได้ว่าจ้าง บริษัทนิวส์ ชิปปิ้งส์เซอร์วิสเซส จำกัด ซึ่งอยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในต่างประเทศให้เป็นผู้ขนส่งสินค้ารถยนต์สามล้อ จำนวน 5 คัน ทางทะเลจากเมืองท่าต้นทางกรุงเทพมหานครไปยังเมืองท่าปลายทางตูนิสประเทศตูนิเซีย โดยติดต่อผ่านจำเลยและได้ชำระเงินค่าระวางขนส่งให้แก่จำเลยเป็นเงิน 266,417.77 บาท ผู้ขนส่งได้ว่าจ้างให้ผู้ขนส่งอื่น คือ บริษัทเรือฮุนไดขนส่งสินค้าดังกล่าวไปอีกทอดหนึ่ง แต่ระหว่างทางสินค้าได้ไปตกอยู่ที่เมืองดูไบประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เนื่องจากผู้ขนส่งประสบปัญหาทางด้านการเงิน ทำให้ไม่สามารถขนส่งสินค้าต่อไปได้อันเป็นการผิดสัญญาต่อโจทก์ โจทก์จึงบอกเลิกสัญญากับผู้ขนส่งและจำเลย ต่อมาโจทก์และจำเลยได้ทำบันทึกข้อตกลงเอกสารหมาย จ.16 กันให้จำเลยจัดการให้มีการขนส่งสินค้าดังกล่าวจากเมืองดูไบไปยังเมืองตูนิส โดยโจทก์ยอมทดรองจ่ายเงินค่าใช้จ่ายอันเนื่องมาจากการที่สินค้าตกค้างที่เมืองดูไบ และค่าระวางการขนส่งจากเมืองดูไบไปยังเมืองตูนิสรวมเป็นเงิน 477,470 บาท ให้แก่จำเลยไปก่อนโดยสงวนสิทธิที่จะเรียกร้องจากผู้ต้องรับผิดชอบให้ชดใช้เงินจำนวนนี้ต่อไป มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยข้อแรกว่า จำเลยเป็นเพียงนายหน้ารับจองระวางเรือไม่ได้เป็นตัวแทนของผู้ขนส่งซึ่งทำสัญญารับขนของทางทะเลแทนผู้ขนส่งซึ่งเป็นตัวการที่อยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในต่างประเทศ ทั้งยังไม่ได้เป็นผู้ขนส่งหรือผู้ขนส่งอื่นจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์นั้น เห็นว่า ในการที่โจทก์ว่าจ้างผู้ขนส่งให้ทำการขนส่งสินค้าดังกล่าวนั้น โจทก์ติดต่อผ่านจำเลยซึ่งจำเลยก็ได้ตกลงรับจัดการขนส่งสินค้าให้แก่โจทก์และเมื่อจำเลยได้รับสินค้าไปจากโจทก์แล้ว จำเลยได้มอบตราส่งเอกสารหมาย จ.5ให้แก่โจทก์ โดยตามใบตราส่งดังกล่าวซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานแห่งสัญญารับขนของทางทะเลระบุชัดว่าจำเลยเป็นผู้ออกใบตราส่งในฐานะเป็นตัวแทนของผู้ขนส่ง ทั้งเมื่อโจทก์ชำระค่าระวางการขนส่งจากเมืองท่าต้นทางไปยังเมืองท่าปลายทาง จำนวน266,412.77 บาท ให้แก่จำเลย จำเลยก็ได้ออกใบเสร็จรับเงินเอกสารหมาย จ.7 ให้แก่โจทก์โดยระบุใบเสร็จรับเงินว่าจำเลยเป็นตัวแทนของผู้ขนส่ง นอกจากนั้นตามหนังสือที่นายวิสิทธิ์ แสงวิทยานนท์ กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนจำเลยมีไปถึงนายภิรมย์สัมมาเมตต์ ผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับการให้โจทก์ยอมออกเงินทดรองค่าใช้จ่ายและค่าระวางการขนส่งจากเมืองดูไบไปยังเมืองปลายทางตูนิสเอกสารหมายจ.14 นายวิสิทธิ์ก็ยอมรับว่าจำเลยเป็นตัวแทนของผู้ขนส่ง จากพฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวมา แม้จำเลยจะไม่ได้ลงลายมือชื่อหรือประทับตราของจำเลยในใบตราส่งที่ออกให้แก่โจทก์ก็ตาม ก็รับฟังได้ว่าจำเลยเป็นตัวแทนของผู้ขนส่งและได้ทำสัญญารับขนส่งสินค้าให้แก่โจทก์แทนผู้ขนส่งซึ่งเป็นตัวการที่อยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในต่างประเทศ หาใช่เป็นเพียงนายหน้าในการรับจองระวางเรือดังที่จำเลยอ้างไม่ จำเลยจึงต้องรับผิดตามสัญญานั้นแต่ลำพังเองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 824 แม้จำเลยจะไม่ใช่ผู้ขนส่งหรือผู้ขนส่งอื่นก็ตาม และเมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า ผู้ขนส่งผิดสัญญาไม่ส่งสินค้าให้ถึงเมืองปลายทาง แต่ปล่อยให้สินค้าไปตกค้างระหว่างทางที่เมืองท่าดูไบเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายต้องเสียค่าใช้จ่าย อันเนื่องมาจากการที่สินค้าตกค้างที่เมืองท่าดูไบและค่าระวางการขนส่งจากเมืองท่าดูไบไปยังเมืองท่าปลายทางตูนิสรวมเป็นเงิน 477,470 บาท จำเลยจึงต้องรับผิดชำระเงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ ส่วนที่จำเลยอุทธรณ์ว่า พระราชบัญญัติการรับขนของทางทะเลพ.ศ. 2535 มาตรา 58 จำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งไว้เพียง 10,000 บาท ต่อหนึ่งหน่วยการขนส่ง สินค้าของโจทก์ที่ขนส่งเป็นรถยนต์สามล้อ จำนวน 5 คัน เท่ากับ 5หน่วยการขนส่ง ความรับผิดของจำเลยจึงไม่เกิน 50,000 บาท นั้น ปัญหานี้แม้ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางจะมิได้หยิบยกขึ้นวินิจฉัยตามที่จำเลยได้ให้การต่อสู้ไว้ ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศก็เห็นสมควรวินิจฉัยไปเสียเลยโดยไม่ต้องย้อนสำนวน และเห็นว่า ข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งดังกล่าวใช้บังคับเฉพาะกรณีที่ของซึ่งผู้ขนส่งได้รับมอบหมายสูญหายหรือเสียหายเท่านั้น แต่กรณีนี้เป็นเรื่องผู้ขนส่งผิดสัญญาไม่ส่งของไปยังเมืองท่าปลายทางตามสัญญา หาใช่เป็นกรณีของสูญหายหรือเสียหายไม่ จึงไม่อาจนำข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งตามมาตรา 58 มาใช้บังคับได้ ส่วนที่จำเลยอุทธรณ์ว่าโจทก์กับจำเลยได้ตกลงกันด้วยว่าเมื่อจำเลยสามารถจัดการจัดส่งสินค้าที่ตกลงค้างอยู่ที่เมืองท่าดูไบไปยังเมืองท่าตูนิสได้เสร็จเรียบร้อยจำเลยก็ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์อีกต่อไปนั้นจำเลยมิได้ยกปัญหานี้ขึ้นต่อสู้ในคำให้การ แต่เพิ่งยกขึ้นในชั้นอุทธรณ์ จึงมิใช่เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ทั้งมิใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. 2539 มาตรา 45ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 จำเลยจึงไม่มีสิทธิยกปัญหานี้ขึ้นอุทธรณ์ได้ ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศไม่รับวินิจฉัย ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษามานั้นชอบแล้ว อุทธรณ์ของจำเลยทุกข้อฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share