คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1637/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีละเมิดเนื่องจากเหตุเกิดเพลิงไหม้ด้วยความจงใจหรือประมาทเลินเล่อของจำเลยหรือลูกจ้าง เมื่อโจทก์มิได้กล่าวอ้างหรือตั้งประเด็นเกี่ยวกับความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437 วรรคสอง ทั้งข้อเท็จจริงในทางพิจารณาก็ไม่ได้ความว่าเครื่องอบกระป๋องในโรงงานของจำเลยเป็นทรัพย์ที่อาจจะเกิดอันตรายได้โดยสภาพ หรือโดยความมุ่งหมายที่จะใช้หรือโดยอาการกลไกของทรัพย์สิน คดีจึงไม่มีประเด็นที่จะวินิจฉัยว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองเครื่องอบและน้ำยาฆ่าแมลงที่บรรจุอยู่ในกระป๋องที่ต้องอบในเครื่องอบนั้นเป็นทรัพย์ที่มีอันตรายโดยสภาพหรือโดยการใช้ตามมาตรา 437 วรรคสองและเหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่เหตุสุดวิสัยซึ่งจำเลยต้องรับผิดหรือไม่
เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ทำให้ทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้กับโจทก์เสียหาย แม้โจทก์จะได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยตามสัญญาประกันภัยแล้ว แต่เมื่อเหตุที่เพลิงไหม้มิได้เกิดจากความประมาทเลินเล่อของจำเลยหรือลูกจ้างของจำเลย โจทก์จึงไม่อาจรับช่วงสิทธิผู้เอาประกันภัยเรียกร้องให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์โดยอ้างมูลละเมิดได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์รับประกันวินาศภัยสินค้าของบริษัทคูปองฟาร์อีส จำกัด ซึ่งเก็บรักษาไว้ที่โรงงานของจำเลย ต่อมาได้เกิดเพลิงไหม้ที่โรงงานของจำเลยด้วยความจงใจหรือประมาทเลินเล่อของจำเลยหรือลูกจ้าง เป็นเหตุให้ทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้กับโจทก์ถูกเพลิงไหม้เสียหาย โจทก์ได้ชำระค่าเสียหายให้บริษัทดูปองฟาร์อีส จำกัด แล้วจึงเป็นผู้รับช่วงสิทธิ ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยชำระค่าเสียหายจำนวน ๙๑๕,๒๐๐.๖๓ บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน ๘๗๕,๐๑๔.๑๑ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จให้โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยหรือลูกจ้างขอจำเลยมิได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์รับประกันวินาศภัยสินค้าและทรัพย์สินของบริษัทดูปองฟาร์อีส จำกัด ที่เก็บรักษาไว้ที่โรงงานของจำเลยต่อมาได้เกิดเพลิงไหม้ที่เครื่องจักรบรรจุย้ายน้ำยาในโรงงานของจำเลยในขณะที่คนงานละเครื่องจักรกำลังทำงานอยู่ ไฟลุกออกมาจากเตาอบสำหรับอบประป๋อง ซึ่งบรรจุยาฆ่าแมลง คนงานของจำเลยปิดสวิตซ์สะพานไฟและใช้เครื่องดับเพลิงฉีดน้ำยาเคมีเข้าไปจึงเกิดการระเบิดขึ้นและไม่ไฟไหม้ลุกลามไปยังที่เก็บสินค้าของบริษัทดูปองฟาร์อีส จำกัด ทำให้ทรัพย์สินของบริษัทดูปองฟาร์อีส จำกัด ที่เอาประกันภัยไว้กับโจทก์เสียหาย โจทก์ได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แล้ว และวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า พยานหลักฐานของโจทก์ยังฟังไม่ได้ว่าเหตุที่เพลิงไหม้เกิดจากความประมาทเลินเล่อของจำเลยหรือลูกจ้างของจำเลย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อบริษัทดูปองฟาร์อีส จำกัด เจ้าของทรัพย์ที่ถูกเพลิงไหม้ ดังนั้นแม้โจทก์จะได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัทดูปองฟาร์อีส จำกัด ไปตามสัญญาประกันภัย โจทก์ก็ไม่อาจรับช่วงสิทธิของบริษัทดูปองฟาร์อีส จำกัด เรียกร้องให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์โดยอ้างมูลละเมิด
ที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยครอบครองเตาอบและน้ำยาฆ่าแมลงซึ่งเป็นทรัพย์ที่มีอันตรายโดยสภาพหรือโดยการใช้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๓๗ วรรคสอง และเหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่เหตุสุดวิสัยจำเลยต้องรับผิดนั้น เห็นว่าคดีนี้โจทก์มิได้กล่าวอ้างหรือตั้งประเด็นเกี่ยวกับความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๓๗ วรรคสอง คดีจึงไม่มีประเด็นที่จะวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ดังกล่าวและเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเหตุที่เพลิงไหม้มิได้เกิดจากความประมาทเลินเล่อของจำเลยหรือลูกจ้างของจำเลยก็ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยคำแก้ฎีกาของจำเลยที่ว่าโจทก์มิได้รับประกันวินาศภัยสินค้าวัตถุดิบของยาฆ่าแมลงและยาฆ่าแมลงจากบริษัทดูปองฟาร์อีส จำกัด และฎีกาของโจทก์ข้ออื่นต่อไป ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share