แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้เสียหายและจำเลยต่างมีสามีคนเดียวกันอยู่คนละบ้านวันเกิดเหตุผู้เสียหายไปหาสามีที่บ้านจำเลยแล้วเกิดโต้เถียงกันในเรื่องหึงหวงสามีจำเลยจึงเอามีดทำครัวมาฟันผู้เสียหายในบ้านทันทีทันใดโดยมิได้คาดคิดมาก่อนผู้เสียหายถูกจำเลยฟันมีบาดแผลที่หนังศีรษะและข้อศอกข้างขวาแล้วผู้เสียหายล้มลงหมดสติจำเลยมีโอกาสเลือกฟันผู้เสียหายได้อีกแต่กลับไม่ฟันตรงอวัยวะสำคัญโดยฟันที่ขาข้างซ้ายด้านข้างของผู้เสียหายบาดแผลทั้งหมดเสียเลือดไม่มาก ไม่ทำให้ถึงแก่ความตายคงมีเฉพาะบาดแผลที่ข้อศอกที่ทำให้ข้อศอกอาจใช้การไม่ได้เท่านั้นและปรากฏว่าใช้เวลารักษา1 เดือน 10 วันหาย เพียงเท่านี้ยังไม่พอที่จะแสดงให้เห็นเจตนาฆ่าจำเลยควรมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า จำเลยใช้มีดทำครัวฟันผู้เสียหาย ได้รับบาดเจ็บ รักษาบาดแผลที่โรงพยาบาล 10 วัน และมารักษาต่อที่บ้านอีก 1 เดือนจึงหาย แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ผู้เสียหายถูกจำเลยฟันมีบาดแผลที่หนังศีรษะและข้อศอกข้างขวาแล้วผู้เสียหายล้มลงหมดสติ ดังนั้นบาดแปลที่ขาข้างซ้ายจำเลยจึงฟันเมื่อผู้เสียหายหมดสติแล้ว บาดแผลทั้งหมดเสียเลือดไม่มากไม่ทำให้ถึงแก่ความตาย บาดแผลที่หนังศีรษะก็ไม่ปรากฏว่ากว้างหรือลึกเพียงใดแสดงว่ามิใช่บาดแผลฉกรรจ์ คงมีเฉพาะบาดแผลที่ข้อศอกที่ทำให้ข้อศอกอาจใช้การไม่ได้เท่านั้น และปรากฏว่าใช้เวลารักษา 1 เดือน 10 วันสาเหตุสืบเนื่องมาจากผู้เสียหายไปหาสามีที่บ้านจำเลยแล้วเกิดโต้เถียงกันในเรื่องหึงหวงสามีจำเลยจึงเอามีดในครัวมาฟันผู้เสียหายในบ้านทันทีทันใดโดยมิได้คาดคิดมาก่อนและจำเลยมีโอกาสเลือกฟันได้อีกเมื่อผู้เสียหายหมดสติไปแล้ว แต่กลับไม่ฟันตรงอวัยวะสำคํญ แม้ตอนแรกจะฟันถูกศีรษะซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญแต่ก็ไม่รุนแรงเพียงเท่านี้ยังไม่พอที่จะแสดงให้เห็นเจตนาว่าจะฆ่าผู้เสียหาย จำเลยควรมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายสาหัส
พิพากษายืน