แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การกระทำอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 365 นั้น ต้องเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์
โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าทรัพย์ที่จำเลยรบกวนนั้นเป็นอสังหาริมทรัพย์การที่โจทก์กล่าวถึงทรัพย์นั้นว่าเป็นแผงลอย ไม่ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์เพราะโดยสภาพของแผงลอยทั่ว ๆ ไปแล้ว ย่อมหมายความว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์ เมื่อโจทก์มิได้กล่าวหาว่าจำเลยรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ แม้จำเลยจะกระทำการนั้นจริงก็ไม่ครบองค์ประกอบที่จะเป็นความผิดตามบทมาตราดังกล่าวข้างต้น จึงลงโทษจำเลยไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองกับพวกไม่ทราบจำนวน ร่วมกันตีไม้ปิดกั้นแผงลอยเลขที่ 15 ในตลาดหมอเพชรหมอพลอยซึ่งโจทก์เช่าจากจำเลยที่ 1 ทำให้โจทก์ไม่สามารถเข้าครอบครองใช้แผงลอยนั้นเป็นที่ค้าขายตามสิทธิของโจทก์เป็นปกติ ทำให้โจทก์ขาดรายได้วันละ 50 บาท ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 365, 358, 83, 91
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งประทับฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 365, 358 ยกฟ้องจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 362, 365, ปรับ 1,000 บาท ส่วนข้อหาฐานทำให้เสียทรัพย์ให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การกระทำอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 362, 365 นั้น ต้องเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ คดีนี้โจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่าทรัพย์ที่จำเลยที่ 1 รบกวนนั้นเป็นอสังหาริมทรัพย์ การที่โจทก์กล่าวถึงทรัพย์นั้นว่าเป็นแผงลอย ไม่ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์ เพราะโดยสภาพของแผงลอยทั่ว ๆ ไปแล้ว ย่อมหมายความว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์ เมื่อโจทก์มิได้กล่าวหาว่าจำเลยที่ 1 รบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ แม้จำเลยที่ 1 จะกระทำการนั้นจริง ก็ไม่ครบองค์ประกอบที่จะเป็นความผิดตามมาตรา 362, 365 ลงโทษจำเลยที่ 1 ไม่ได้
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 ในข้อหาฐานบุกรุกด้วยนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์