คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1628/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยลงข่าวในหนังสือพิมพ์ของจำเลยเป็นข้อความหมิ่นประมาทใส่ความกำนันตำบลหาดท่าเสา อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาทว่าให้สินบนพนักงานสอบสวนที่ทำการสอบสวนกำนันฐานทุจริตต่อหน้าที่และพนักงานสอบสวนนั้นได้หน่วงเหนี่ยวสำนวนไว้เพื่อให้พยานกลับคำ เมื่อปรากฏว่ากำนันตำบลหาดท่าเสามีนายใบโสภาสุขคนเดียว และนายใบ โสภาสุขกำลังถูกนายประโยชน์แสงสอาดสอบสวนเรื่องทุจริตต่อหน้าที่ (สอบสวนคนเดียว) เช่นนี้จำเลยก็ย่อมมีผิดฐานหมิ่นประมาทใส่ความนายใบและนายประโยชน์ทั้งสองคน

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2499 เวลากลางวันจำเลยซึ่งเป็นบรรณาธิการ ผู้พิมพ์โฆษณาและเจ้าของหนังสือพิมพ์เสียงชัยนาทได้บังอาจใส่ความหมิ่นประมาทนายใบ โสภาสุข กำนันตำบลหาดท่าเสา และนายประโยชน์ แสงสอาด ปลัดอำเภอเมืองชัยนาทกล่าวถึงความเดือดร้อนของราษฎรตำบลหาดท่าเสา มีข้อความสำคัญว่า”กำนันจับปืนป่าจากนายสวน ฤทธินาคาได้ 1 กระบอก ฯลฯ เรื่องนี้มีนายดวน โพธิอินทร์ ได้ยื่นฟ้องต่อข้าหลวงแล้ว ข้าหลวงบันทึกให้นายอำเภอเมืองสอบสวนแล้ว จนบัดนี้ยังไม่เห็นเสนอเรื่องไปอย่างไรว่าจะส่งเรื่องมาจังหวัดหลายครั้งแล้วก็ไม่เห็นส่ง ได้ข่าวว่ากำนันวิ่งเข้าหาปลัดผู้สอบสวนให้ 8,000 บาท ขอให้เรียกพยานมาให้การใหม่ จึงผัดเรื่อยมา ถ้าพยานจะมากลับคำยังไม่หมด” มีรายการละเอียดในหนังสือพิมพ์เสียงชัยนาทปีที่ 2 ฉบับที่ 15 ลงวันที่ 20 มกราคม 2499 หน้า 5-15 และจำเลยได้ทำการจำหน่ายจ่ายแจกไปยังราษฎรเกือบทุกตำบลทำให้ราษฎรอ่านและทราบข้อความที่จำเลยใส่ความหมิ่นประมาทเกิน 2 คน ทำให้นายใบ โสภาสุข กำนันตำบลหาดท่าเสาและนายประโยชน์ แสงสอาดปลัดอำเภอเมืองเสียชื่อเสียง อาจทำให้คนทั้งหลายดูหมิ่นเกลียดชัง จึงขอให้ศาลลงโทษ

จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้ยกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานโฆษณาหมิ่นประมาทใส่ความนายใบกำนันคนเดียว เพราะกำนันตำบลหาดท่าเสามีคนเดียว จึงพิพากษาว่าจำเลยผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 282วรรค 2 ให้จำคุกจำเลย 15 วัน ปรับจำเลย 200 บาท และให้ริบหนังสือพิมพ์

โจทก์และจำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังว่า เดิมนายดวนได้ร้องเรียนนายอำเภอว่ากำนันตำบลหาดท่าเสาทุจริตต่อหน้าที่ นายอำเภอมอบเรื่องให้นายประโยชน์สอบสวน นายประโยชน์ได้สอบสวนแล้วและได้ส่งสำนวนไปยังพนักงานอัยการจังหวัดแล้ว จำเลยจึงออกหนังสือพิมพ์ดังกล่าวเป็นเหตุให้คนทั้งหลายเกลียดชังนายใบและนายประโยชน์ ที่จำเลยเถียงว่า จำเลยมิได้ออกชื่อนายใบหรือนายประโยชน์ และจำเลยมิได้ยืนยันข่าวนั้น ศาลเห็นว่าจำเลยเจตนาเสนอข่าวการให้การรับสินบนระหว่างกำนันกับปลัดอำเภอ ผู้ทำการสอบสวนกำนันผู้ทุจริตต่อหน้าที่โดยกำนันให้สินบน 8,000 บาท ปลัดอำเภอจึงหน่วงเหนี่ยวการสอบสวนไว้ให้ล่าช้าเพื่อให้พยานกลับคำ

จำเลยเสนอเหตุการณ์อันเกิดขึ้นในท้องที่ตำบลหาดท่าเสาคำว่า”กำนัน” บ่งชัดว่าหมายถึงกำนันตำบลหาดท่าเสา และต้องเป็นกำนันปัจจุบันเพราะกำนันที่ออกไปแล้วจะมาจับปืนเถื่อนอย่างไรจำเลยจึงผิดฐานหมิ่นประมาทใส่ความนายใบกำนัน

สำหรับนายประโยชน์นั้น แม้ในอำเภอนี้มีพนักงานสอบสวนหลายคนก็จริง แต่สำหรับคดีนี้นายประโยชน์สอบสวนคดีของนายใบคนเดียวจึงบ่งเฉพาะถึงนายประโยชน์ จำเลยย่อมมีผิดฐานหมิ่นประมาทใส่ความนายประโยชน์ด้วย

แต่เป็นความผิดในคราวเดียว และผิดต่อกฎหมายบทเดียวกันกับที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษมา ซึ่งศาลฎีกาก็เห็นว่าโทษที่กำหนดไว้สมควรแก่ความผิดแล้ว นอกจากข้อความที่แก้ไขนี้คงพิพากษาให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share