คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4990/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อข้อเท็จจริงตามคำร้องของผู้ร้อง และตามคำคัดค้านของโจทก์พอวินิจฉัยได้ ศาลมีอำนาจงดการไต่สวนและมีคำสั่งได้โดยไม่ต้องทำการไต่สวน เมื่อตามข้อเท็จจริงที่ได้ความเห็นได้ชัดว่าผู้ร้องและจำเลยตกลงซื้อขายกันโดยวิธีผ่อนชำระ และได้มอบรถยนต์ของกลางให้จำเลยครอบครอง จึงเป็นการซื้อขายกันเด็ดขาดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 458 กรรมสิทธิ์รถยนต์ของกลางตกไปเป็นของจำเลยแล้ว นับแต่วันที่ผู้ร้องและจำเลยตกลงซื้อขายรถยนต์ของกลางกัน ผู้ร้องจึงไม่ใช่เจ้าของรถยนต์ของกลาง

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันมีไม้กระทุ่งนาแปรรูปจำนวน ๑๐๓ แผ่น ปริมาตร ๑.๓๔ ลูกบาศก์เมตรซึ่งเป้นไม้หวงห้ามประเภท ก. ไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ ริบไม้และรถยนต์ไทยประดิษฐ์ (อีแต๋น) ของกลาง จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยและริบของกลาง
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า รถยนต์ของกลางเป็นของผู้ร้อง ผู้ร้องมิได้มีส่วนรู้เห็นในการกระทำผิดของจำเลย ขอให้คืนรถยนต์ของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ของกลางทั้งหลังเกิดเหตุผู้ร้องมิได้โต้แย้งกรรมสิทธิ์ จำเลยที่ ๑ให้การต่อพนักงานสอบสวนว่ารถยนต์ของกลางเป็นของจำเลยที่ ๑ และถ้าหากปรากฏหลักฐานว่ารถยนต์ของกลางเป็นของผู้ร้อง ผู้ร้องก็มีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสอง ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีพอวินิจฉัยได้แล้วให้งดการไต่สวนและมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อข้อเท็จจริงตามคำร้องของผู้ร้องและคำคัดค้านของโจทก์พอวินิจฉัยได้ ศาลมีอำนาจสั่งงดไต่สวนคำร้องและมีคำสั่งได้โดยไม่ต้องทำการไต่สวน และคดีนี้ตามคำร้องของผู้ร้องได้ความว่าเดิมรถยนต์ของกลางเป็นของผู้ร้อง จำเลยขอซื้อรถยนต์ของกลางจากผู้ร้องโดยขอผ่อนชำระราคา ผู้ร้องตกลงขายให้จำเลยในราคา ๓๐,๐๐๐ บาท และจำเลยเพิ่งชำระราคาให้เพียง ๒๐,๐๐๐ บาทเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องของผู้ร้องวินิจฉัยได้แล้ว หาจำต้องทำการไต่สวนไม่และตามข้อเท็จจริงดังกล่าวเห็นได้ชัดว่าผู้ร้องและจำเลยตกลงซื้อขายกันโดยวิธีผ่อนชำระ และได้มอบรถยนต์ของกลางให้จำเลยครอบครอง จึงเป็นการซื้อขายกันเด็ดขาดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๕๘ กรรมสิทธิ์รถยนต์ของกลางตกไปเป็นของจำเลยแล้วนับแต่วันที่ผู้ร้องและจำเลยตกลงซื้อขายรถยนต์ของกลางกัน ผู้ร้องจึงไม่ใช่เจ้าของรถยนต์ของกลาง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share