แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้การนำพยานบุคคลมาสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในสัญญาซื้อขายว่า น. ซื้อบ้านพิพาทแทน ก. จะเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 และเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อศาลฎีกาไม่เห็นสมควร ศาลฎีกาก็ไม่ยกขึ้นวินิจฉัยได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดและต่อมาพิพากษาให้ล้มละลาย โจทก์ในฐานะเจ้าหนี้จำเลยได้ยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่า ในระหว่างที่จำเลยจดทะเบียนสมรสกับนางกาบแก้วหรือนิภา รุ่งพิมลมาศ นางกาบแก้วได้ซื้อบ้านไม้ 2 ชั้นเลขที่ 116/25 หมู่ที่ 2 แขวงบางขุนเทียนเขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ไว้ ดังนั้น บ้านดังกล่าวจึงเป็นสินสมรสของจำเลยกับนางกาบแก้วหรือนิภา แต่เมื่อโจทก์นำเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไปยึดบ้าน นางกาบแก้วหรือนิภาแจ้งว่าบ้านดังกล่าวไม่ใช่สินสมรส โจทก์จึงได้ขอให้งดการยึดไว้ก่อนเพื่อให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนเกี่ยวกับผู้ถือกรรมสิทธิ์และเมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทำการสอบสวนแล้ว ได้มีคำสั่งว่าบ้านดังกล่าวไม่เป็นสินสมรส
โจทก์ยื่นคำร้องว่า เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งไม่ถูกต้อง เพราะนางกาบแก้วหรือนิภาได้บ้านดังกล่าวมาระหว่างสมรสจึงเป็นสินสมรส ขอให้กลับคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่าผู้คัดค้านได้สอบสวนแล้วได้ความว่า นางแก้ว สุขสวัสดิ์ ให้นางกาบแก้วหรือนิภาบุตรสาวเป็นตัวแทนซื้อไว้ บ้านดังกล่าวจึงไม่ใช่สินสมรส ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้องของโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า นางกาบแก้วหรือนิภาซื้อบ้านพิพาทไว้แทนนางแก้ว แม้จะซื้อในระหว่างสมรสกับจำเลย ก็ไม่เป็นสินสมรสระหว่างนางกาบแก้วหรือนิภากับจำเลย แล้ววินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่าที่โจทก์ฎีกาว่าผู้คัดค้านนำพยานบุคคลมาสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในสัญญาซื้อขายว่า นางกาบแก้วหรือนิภาซื้อบ้านพิพาทแทนนางแก้ว เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 และปัญหานี้เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้โจทก์จะมิได้ยกขึ้นว่ากันมาในศาลชั้นต้น โจทก์ก็มีสิทธิยกขึ้นอุทธรณ์ฎีกานั้น เห็นว่า แม้จะฟังว่าปัญหาดังกล่าวเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนก็ตาม แต่ศาลฎีกาก็ไม่เห็นสมควรยกขึ้นวินิจฉัยให้
พิพากษายืน