คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1626/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ลูกจ้างถูกยิงถึงแก่ความตายขณะปฏิบัติหน้าที่ยามในเวลากลางคืน ณ สถานที่กองเก็บทรัพย์สินของนายจ้าง พฤติการณ์ส่อไปในทางถูกยิงเพราะปฏิบัติหน้าที่นั่นเอง เมื่อไม่ได้ความว่าการที่ถูกยิงมาจากเหตุส่วนตัวหรือเหตุอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการทำงาน จึงถือได้ว่าลูกจ้างประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้างแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๒๕ เวลาประมาณ ๒๑ นาฬิกา นายพลึง ลูกจ้างของโจทก์ทำหน้าที่เฝ้าดูแลเครื่องอัดหินและเครื่องมือซ่อมทางรถไฟที่ริมทางรถไฟ ได้ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนลอบยิงถึงแก่ความตายในขณะนอนบริเวณสถานที่กองเก็บทรัพย์สินของโจทก์ดังกล่าว หลังจากเกิดเหตุคนร้ายได้หลบหนีโดยไม่ได้เอาทรัพย์สินของโจทก์ไป ทายาทของผู้ตายได้ยื่นคำร้องเรียกเงินทดแทนต่อพนักงานเงินทดแทน ซึ่งได้มีคำสั่งเงินทดแทนให้โจทก์จ่ายทดแทนแก่ภริยาและบุตรผู้ตาย และให้จ่ายค่าทำศพแก่ผู้จัดการศพของลูกจ้าง โจทก์อุทธรณ์คำสั่งต่อจำเลยจำเลยมีคำสั่งอุทธรณ์เงินทดแทนยื่นตามคำสั่งของพนักงานเงินทดแทน โจทก์เห็นว่าคำสั่งอุทธรณ์ดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะแม้ขณะเกิดเหตุจะอยู่ในระหว่างเวลาที่กำหนดให้ผู้ตายทำหน้าที่เฝ้าดูแลทรัพย์สินของโจทก์ แต่ไม่ปรากฏว่าผู้ตายถูกคนร้ายลอบยิงเนื่องมาจากการทำงานหรือการป้องกันรักษาผลประโยชน์ให้แก่โจทก์ผู้เป็นนายจ้าง การตายของผู้ตายน่าจะเกิดจากเหตุส่วนตัวของผู้ตายเองก็ได้ ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งอุทธรณ์เงินทดแทน
จำเลยให้การว่า นายพลึง ผู้ตาย ทำหน้าที่เป็นยามดูแลทรัพย์สินของโจทก์ผู้เป็นนายจ้างไม่ให้สูญหาย ขณะถูกยิงผู้ตายอยู่ในระหว่างเวลาอยู่ยามรักษาทรัพย์สินตามปกติ ถือว่าผู้ตายทำงานให้แก่นายจ้างในขณะนั้นและเป็นการป้องกันรักษาประโยชน์ให้แก่นายจ้าง คำวินิจฉัยของสำนักงานแรงงานจังหวัดและอธิบดีกรมแรงงานชอบแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า นายพลึง ถูกยิงถึงแก่ความตายขณะปฏิบัติหน้าที่ยามในเวลากลางคืน ณ สถานที่กองเก็บทรัพย์สินของโจทก์ พฤติการณ์ตามที่ศาลแรงงานกลางฟังมาส่อไปในทางถูกยิงเพราะปฏิบัติหน้าที่นั่นเอง เมื่อไม่ได้ความว่าการที่ถูกยิงมาจากสาเหตุส่วนตัวหรือเหตุอื่นที่ไม่เกี่ยวกับงการทำงาน ถือได้ว่าผู้ตายประสบอันตรายถึงตายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้าง ตามนัยแห่งประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๑๕ แล้ว ที่โจทก์อุทธรณ์อ้างว่าผู้ตายถูกลอบยิงขณะนอนอยู่ในมุ่ง ถือไม่ได้ว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่นั้น ไม่ได้ความว่าขณะทำหน้าที่ยามจะนอนไม่ได้ จึงจะถือว่าผู้ตายมิได้อยู่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่หาได้ไม่ และที่โจทก์อ้างว่าโจทก์ได้จ่ายค่าทำศพให้แก่ผู้จัดการศพของผู้ตายตามระเบียบของโจทก์แล้ว ศาลแรงงานกลางไม่ควรสั่งให้โจทก์จ่ายค่าทำศพอีกนั้น เห็นว่า คดีนี้คงมีประเด็นข้อพิพาทว่าคำสั่งของพนักงานเงินทดแทนและคำสั่งของอธิบดีกรมแรงงานชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ การที่โจทก์ได้จ่ายค่าทำศพไปตามระเบียบของโจทก์ไม่ทำให้คำสั่งดังกล่าวกลายเป็นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งศาลแรงงานกลางคงพิพากษายกฟ้องโจทก์ มิได้พิพากษาให้โจทก์จ่ายค่าทำศพอีก
พิพากษายืน

Share