แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลแขวงพิพากษายกฟ้องโดยฟังว่า จำเลยไม่มีเจตนากระทำความผิดโจทก์อุทธรณ์ว่าพฤติการณ์ของจำเลยส่อว่าจำเลยมีเจตนาทุจริต และว่าศาลตีความเจตนาของจำเลยโดยไม่ชอบ ดังนี้เป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นรับฟัง จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อนายทะเบียนท้องถิ่นแขวงพระโขนง แล้วจำเลยที่ ๑ แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในทะเบียนบ้านเลขที่ ๑๗๕ ซึ่งเป็นเอกสารราชการขอให้ลงโทษ
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วฟังข้อเท็จจริงว่า การที่โจทก์มีชื่อเข้าอยู่ในสำมะโนครัวจำเลยที่ ๑ ในบ้านเลขที่ ๑๗๕ ของจำเลยที่ ๑ นั้นโดยความยินยอมของจำเลย ต่อมาเมื่อจำเลยไม่พอใจในตัวโจทก์จำเลยที่ ๑ จึงยื่นคำร้องต่อนายทะเบียนท้องถิ่นให้คัดชื่อโจทก์ออกจากสำมะโนครัว การที่จำเลยแจ้งว่าโจทก์ออกไปไหนไม่ทราบที่อยู่ จะฟังว่าจำเลยเจตนาแจ้งความเท็จยังไม่ได้ แม้ความจริงจำเลยรู้อยู่ว่าโจทก์อยู่บ้านเลขที่ ๑๗๓ ของจำเลยอีกหลังหนึ่งตลอดมา การที่จำเลยแจ้งย้ายโจทก์ออกไปนั้น ก็เป็นสิทธิของจำเลยที่เจตนาให้คัดชื่อโจทก์ออกจากสำมะโนครัวของจำเลยเท่านั้น ทั้งโจทก์ก็ไม่เสียหายอย่างใด การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดดังฟ้อง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ศาลประทับฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามอุทธรณ์ พิพากษายกอุทธรณ์โจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้ ศาลแขวงพระนครใต้พิพากษายกฟ้องโจทก์ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยไม่มีเจตนากระทำความผิดฐานแจ้งความเท็จและแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ โจทก์อุทธรณ์โต้เถียงว่าพฤติการณ์ของจำเลยส่อชัดว่ามีเจตนาทุจริต และการตีความเจตนาของศาลชั้นต้นไม่ชอบเป็นการอุทธรณ์โต้เถียงข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นรับฟัง จึงเป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงพ.ศ. ๒๔๙๙ มาตรา ๒๒ พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ (ฉบับที่ ๒)พ.ศ. ๒๕๐๓ มาตรา ๑๐ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกอุทธรณ์โจทก์เสียนั้น ชอบแล้ว
พิพากษายืน