คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 162/2532

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหาปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม โดยกล่าวอ้างว่าจำเลยเอาอาวุธปืนของโจทก์ไปขูดลบเปลี่ยนหมายเลขทะเบียนปืนและเลขประจำปืนแล้วนำไปจดทะเบียนในสภาพเป็นอาวุธปืนเถื่อนคดีถึงที่สุดโดยศาลฎีกาวินิจฉัยว่าคดีขาดอายุความ การที่จำเลยนำอาวุธปืนมาแสดงต่อศาลเพื่อพิสูจน์ว่าอาวุธปืนที่จำเลยนำไปจดทะเบียนปืนเถื่อนเป็นอาวุธปืนคนละกระบอกกับอาวุธปืนของโจทก์ระหว่างพิจารณาคดีดังกล่าวของศาลชั้นต้น จึงไม่ใช่เป็นการแสดงพยานหลักฐานในข้อสำคัญในคดี เพราะอาวุธปืนดังกล่าวจะเป็นพยานหลักฐานอันเป็นเท็จหรือไม่ก็ไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไป.(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177, 180,91
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว พิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสองที่เกี่ยวกับความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180 ให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณามูลคดีของโจทก์ สำหรับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 180 ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีโจทก์มีมูลและประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาเฉพาะฎีกาข้อ 3 ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์ฟ้องนางเลี่ยมไทยกุล และจำเลย ขอให้รับชำระหนี้เงินยืม และคืนอาวุธปืนสั้นรีวอลเวอร์ เลขหมายทะเบียนปืน อ.บ.1/5362 เลขประจำปืน 95817ตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 40/2514 ของศาลชั้นต้น ในระหว่างพิจารณาคดีดังกล่าวจำเลยส่งอาวุธปืนสั้นรีวอลเวอร์ขนาด .32 ต่อศาล 1 กระบอก และแถลงว่าเป็นอาวุธปืนที่โจทก์จำนำไว้ ศาลพิพากษาให้จำเลยรับเงินและส่งอาวุธปืนคืนโจทก์ ต่อมาโจทก์ฟ้องจำเลยฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมโดยกล่าวอ้างว่า จำเลยเอาอาวุธปืนของโจทก์ไปขูดลบเปลี่ยนแปลงเลขหมายทะเบียนปืนและเลขประจำปืนแล้วนำไปจดทะเบียนในสภาพเป็นอาวุธปืนเถื่อน ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1620/2526 ของศาลชั้นต้น และในการพิจารณาคดีดังกล่าวจำเลยนำอาวุธปืนรีวอลเวอร์ .32 ทะเบียนเลขที่ ศ.ก…(เป็นตัวเลขไม่ชัดอ่านไม่ออก) /8080 เลขประจำปืน 795817 มาแสดงต่อศาลว่าเป็นอาวุธปืนที่จำเลยนำไปจดทะเบียนปืนเถื่อน คดีดังกล่าวศาลวินิจฉัยว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ พิพากษายกฟ้องโจทก์ คดีถึงที่สุดแล้ว คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า การกระทำของจำเลยเป็นการนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานในข้อสำคัญในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 180 หรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้ศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสองให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณามูลคดีสำหรับความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180 และดำเนินการต่อไปตามรูปคดี ระหว่างการพิจารณาพิพากษาใหม่ของศาลชั้นต้นปรากฏว่า คดีที่เป็นต้นเหตุของเรื่องคือคดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหาปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมถึงที่สุด โดยศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีขาดอายุความ ดังนั้น การที่จำเลยนำอาวุธปืนมาแสดงต่อศาลเพื่อพิสูจน์ว่าอาวุธปืนที่จำเลยนำไปจดทะเบียนปืนเถื่อนเป็นอาวุธปืนคนละกระบอกกับอาวุธปืนของโจทก์ จึงไม่ใช่การแสดงพยานหลักฐานในข้อสำคัญในคดี เพราะอาวุธปืนดังกล่าวจะเป็นพยานหลักฐานอันเป็นเท็จหรือไม่ก็หาทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไปไม่ ที่ศาลล่างทั้งสองเห็นว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180 พิพากษายกฟ้องโจทก์มานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share