แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยเป็นผู้ครอบครองที่พิพาทเป็นเวลากว่า 10 ปี ด้วยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของจำเลยจึงได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาท แต่สิทธิของจำเลยยังมิได้มีการจดทะเบียน จึงต้องห้ามมิให้ยกขึ้นต่อสู้บุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตเมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่พิพาทจาก อ. โดยสุจริตและจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ซื้อที่พิพาทไว้จาก อ. โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนหรือไม่ จำเลยไม่รับรอง จึงมีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยต่อไปว่าโจทก์ซื้อที่พิพาทโดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตหรือไม่ และการที่ศาลกำหนดประเด็นว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือจำเลยนั้นย่อมครอบคลุมไปถึงปัญหาที่ว่า โจทก์ซื้อที่พิพาทไว้โดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตหรือไม่ด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ ๖๓๔๖ พร้อมเรือน ๑ หลัง ยุ้งข้าวและร้านกระบือจากนายอุดม จดทะเบียนซื้อขาย ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดสุพรรณบุรีโจทก์ได้ขอรังวัดสอบเขตเพื่อจะล้อมรั้ว ปรากฏว่าบุคคลผู้มีชื่อและจำเลยบุกรุกเข้ามาครอบครองที่ดินทางด้านตะวันตกตลอดแนวเฉพาะส่วนที่จำเลยบุกรุกเนื้อที่ ๒๖ ตารางวาจำเลยคัดค้านเถียงกรรมสิทธิ์อ้างว่าครอบครองมานานแล้ว และเมื่อประมาณต้นปีมานี้จำเลยยังได้นำต้นกล้วยเข้ามาปลูกในที่ดินดังกล่าวอีกขอให้ศาลพิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ ให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปและห้ามมิให้เกี่ยวข้องอีกต่อไป
จำเลยให้การว่า โจทก์จะได้ซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ ๖๓๔๖ จากนายอุดมโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนหรือไม่ จำเลยไม่รับรอง จำเลยและนางสาวแช่มเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทร่วมกันโดยรับมรดกจากบิดามารดา บิดามารดาของจำเลยได้ครอบครองมาด้วยความสงบเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลากว่า ๑๐ ปีแล้วจำเลยได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ คดีขาดอายุความและฟ้องเคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินโฉนดเลขที่ ๖๓๔๖ ของโจทก์ จำเลยและนางสาวแช่มเป็นผู้ครอบครองที่พิพาทเป็นเวลากว่า ๑๐ ปีด้วยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของจำเลยจึงได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๘๒ แต่อย่างไรก็ดี สิทธิของจำเลยยังมิได้มีการจดทะเบียนจึงต้องห้ามมิให้ยกขึ้นต่อสู้บุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริต ในเรื่องนี้ โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์ซื้อที่พิพาทจากนายอุดมโดยสุจริตและจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ซื้อที่พิพาทไว้จากนายอุดมโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนหรือไม่ จำเลยไม่รับรอง จึงมีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยต่อไปว่าโจทก์ซื้อที่พิพาทโดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตหรือไม่ แล้วฟังข้อเท็จจริงว่าก่อนซื้อโจทก์รู้อยู่ก่อนแล้วว่าที่พิพาทซึ่งอยู่นอกแนวต้นมะขามและรั้วนั้นจำเลยเป็นผู้ครอบครอง ถือไม่ได้ว่าโจทก์ซื้อที่พิพาทโดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริต
ส่วนฎีกาของโจทก์ในข้อที่ว่า ประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนดไม่รวมถึงปัญหาที่ว่าโจทก์ซื้อที่พิพาทโดยสุจริตหรือไม่นั้น การที่ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือจำเลยนั้น ย่อมครอบคลุมไปถึงปัญหาที่ว่าโจทก์ซื้อที่พิพาทไว้โดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตหรือไม่ด้วย
พิพากษายืน